เมนู

9. มหาปุณณมสูตร



ว่าด้วยอุปาทานและอุปาทานขันธ์



[120] ข้าพเจ้าได้ฟังมาแล้ว อย่างนี้:-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ปราสาทของอุบาสิกาวิสาขา-
มิคารมารดา ในพระวิหารบุพพาราม กรุงสาวัตถี สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
มีภิกษุสงฆ์ห้อมล้อม ประทับนั่งกลางแจ้ง ในราตรีมีจันทร์เพ็ญ วันนั้น
เป็นวันอุโบสถ 15 ค่ำ ขณะนั้น ภิกษุรูปหนึ่งลุกจากอาสนะ ห่มจีวรเฉวียงบ่า
ข้างหนึ่ง ประนมอัญชลีไปทางที่ประทับของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว กราบทูล
พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์จะขอกราบทูล
ถามปัญหาสักเล็กน้อยกะพระผู้มีพระภาคเจ้า ถ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าจะประทาน
โอกาสเพื่อพยากรณ์ปัญหาแก่ข้าพระองค์.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ถ้าอย่างนั้น เธอจงนั่งลง
ยังอาสนะของตน ประสงค์จะถามปัญหาข้อใด ก็ถามเถิด.
[121] ครั้งนั้น ภิกษุรูปนั้นนั่งยังอาสนะของตนแล้ว ได้ทูลถามพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุปาทานขันธ์ คือ รูปูปาทาน-
ขันธ์ เวทนูปาทานขันธ์ สัญญูปาทานขันธ์ สังขารูปาทานขันธ์ วิญญาณู-
ปาทานขันธ์ มี 5 ประการเท่านี้หรือหนอแล.
พ. ดูก่อนภิกษุ อุปาทานขันธ์ มี 5 ประการเท่านี้ คือ รูปูปาทาน-
ขันธ์ เวทนูปาทานขันธ์ สัญญูปาทานขันธ์ สังขารูปาทานขันธ์ วิญญาณู
ปาทานขันธ์.