เมนู

ตนะที่ตรัสไว้แล้วในรูปขันธ์ แห่งอายตนะในบรรดาอรูปายตนะทั้งหลาย
ที่ตรัสไว้ในวิญญาณขันธ์ แห่งธรรมายตนะ ที่ตรัสไว้ในขันธ์ที่เหลือว่า
เพราะอวิชชาเกิด จักษุจึงเกิด. ไม่ควรหมายถึงโลกุตตรธรรม. คำต่อ
แต่นี้ไป มีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแหละ.

อริยสัจในอายตนะ


ก็สติเป็นเครื่องกำหนดอายตนะ ในอายตนบรรพนี้ เป็นทุกขสัจ
อย่างเดียว พึงประกอบความดังกล่าวมานี้ แล้วทราบมุขคือข้อปฏิบัติที่
เป็นเหตุนำออก (จากทุกข์) แห่งภิกษุผู้กำหนดถืออายตนะเป็นอารมณ์.
คำที่เหลือก็อย่างนั้นเหมือนกันแล.
จบ อายตนะบรรพ

โพชฌงคบรรพ


[144] พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงจำแนกธรรมานุปัสสนา โดย
อายตนะที่เป็นไปในภายในและภายนอกอย่างนี้แล้ว บัดนี้ เพื่อจะทรง
จำแนกโดยโพชฌงค์ จึงตรัสคำมีอาทิว่า ปุน จปรํ.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โพชฺฌงฺเคสุ ได้แก่องค์แห่งบุคคลผู้
ข้องอยู่ในการตรัสรู้.
บทว่า สนฺตํ ได้แก่มีอยู่โดยการกลับได้.
บทว่า สติสมฺโพชฺณงฺคํ ได้แก่องค์แห่งธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้
กล่าวคือสติ.