เมนู

พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงถามปัญหา. ในอวสานแห่งการวิสัชนาปัญหา
ท้าวเธอได้บรรลุโสดาปัตติผล พร้อมด้วยเทวดา 8 หมื่นตน ท้าวเธอ
(จุติแล้ว) ได้เสด็จอุบัติขึ้นใหม่เป็นปกติดังเดิมอีก.

เทวดาตกนรก


แม้สุพรหมเทพบุตร มีเทพอัปสรพันหนึ่ง เป็นบริวาร เสวย
สวรรค์สมบัติ บรรดาเทพอัปสรสาวสวรรค์พันหนึ่งนั้น เทพอัปสร 500
ตน กำลังเก็บดอกไม้ จากต้นอยู่หลัด ๆ ก็จุติ1 แล้วเกิดในนรก. ท้าวเธอ
ทรงใคร่ครวญดูว่า สาวอัปสรเหล่านี้ เหตุใดจึงช้าอยู่ ? ได้ทรงเห็นว่า
เขาเหล่านั้น เกิดในนรกแล้ว ทรงตรวจดูว่า อายุของเรา จะเท่าไร
หนอ ? พอทรงทราบพระชนมายุของพระองค์ก็จักสิ้นไปเหมือนกัน ก็
ทรงเห็นว่า พระองค์จะทรงเกิดในนรกนั้นแหละ จึงตกพระทัย ทรง
โทมนัสเหลือเกิน ทรงดำริว่า พระศาสดาจักขจัดโทมนัสของเรานี้ได้ ผู้อื่น
ขจัดไม่ได้ แล้วได้ทรงพาเทพอัปสรสาวสวรรค์ 500 ที่ยังเหลือไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าทูลถามปัญหาว่า :-
จิตนี้สะดุ้งอยู่เนืองนิตย์ จิตคือใจนี้หวาดผวาเป็น
ประจำ เมื่อกิจ (เหตุ) เกิดขึ้นแล้วและยัง
ไม่เกิดขึ้น ถ้าหากความไม่สะดุ้งกลัวมีอยู่ ขอพระองค์
ผู้อันข้าพระองค์ทูลถานแล้ว จงตรัสบอกความไม่
สะดุ้งนั้นแก่ข่าพระองค์ด้วยเถิด.

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสกะท้าวเธอว่า :
เรามองไม่เห็นความสวัสดีอย่างอื่นของสัตว์ทั้งหลาย
1. ปาฐะเป็น จริตฺวา ฉบับพม่าเป็น จวิตฺวา จึงแปลตามฉบับพม่า.