เมนู

ท่านพระสารีบุตรเถระ ได้จบเทศนาลงด้วยอนาคามิมรรค และ
อรหัตตมรรคดังที่ได้พรรณนามานี้แล.
จบ กถาว่าด้วยกรรมบถ

พระภิกษุชื่นชมภาษิตของพระสารีบุตร


[112] ในคำว่า สาธาวุโส โข ฯลฯ อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ
มีคำอธิบายไว้ว่า ภิกษุเหล่านั้น ครั้นได้ฟังเทศนาว่าด้วยสัจจะทั้ง 4 ของ
ท่านพระสารีบุตร โดยมุขคือกุศลและอกุศลอย่างนี้แล้ว จึงพากันชมเชย
ภาษิตของท่านพระสารีบุตร ด้วยถ้อยคำนี้ว่า ดีแล้วครับได้เท้า และ
อนุโมทนาด้วยจิตที่เป็นสมุฏฐานของถ้อยคำนี้นั้นเอง รับเอาด้วยวาจา
เอิบอิ่มด้วยใจทีเดียว.
บัดนี้ เพราะเหตุที่พระเถระเป็นผู้สามารถที่จะแสดงธรรมเทศนาว่า
ด้วยจตุราริยสัจได้ ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย พระสารีบุตรสามารถจะบอกจะแสดงอริยสัจ 4 ได้โดยพิสดาร.
หรือเพราะเหตุที่ท่านพระสารีบุตรต้องการจะแสดงธรรมให้สูงยิ่งขึ้นไปอยู่
แล้ว จึงได้กล่าวว่า เอตฺตาวตาปิ โข อาวุโส ( เพียงเท่านี้เท่านั้นแล
คุณ) เพราะเหตุนั้น ภิกษุทั้งหลายนั้น ผู้ประสงค์จะฟังสัจจเทศนา
โดยนัยแม้อย่างอื่น จึงได้ถามปัญหาสูงขึ้นไป กะท่านพระสารีบุตร.
ภิกษุเหล่านั้นจึงได้ถามปัญหาอื่นที่สูงขึ้นไป โดยนัยนี้ว่า ใต้เท้าขอรับ
ยังมีอยู่อีกหรือ บรรยายแม้อย่างอื่น คือเหตุแม้อย่างอื่น ที่เหนือกว่า
ปัญหาที่ใต้เท้าได้ถามเองตอบเองมาแล้ว.
อีกอย่างหนึ่ง มีคำอธิบายไว้ว่า ภิกษุเหล่านั้นได้พากันถามปัญหา

ในส่วนที่เหนือปัญหาก่อนขึ้นไป. อีกอย่างหนึ่ง ท่านอธิบายว่า ภิกษุ
ทั้งหลายได้ถามปัญหาข้อแรกให้สูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง.
ถัดนั้น พระเถระเมื่อจะพยากรณ์ปัญหาให้ภิกษุเหล่านั้นฟัง จึงได้
กล่าวคำมีอาทิว่า สิยา อาวุโส (ยังมีอยู่คุณ) ดังนี้.

กถาพรรณนาอาหารวาระ


ภูต - สัมภเวสี

[113] ในจำนวนบทเหล่านั้น คำขยายต่อไปนี้ จะเป็นคำขยาย
ความเฉพาะบทที่ยาก.
คำว่า อาหาร ได้แก่ปัจจัย. เพราะปัจจัยนำผลมาให้ตน ฉะนั้น
ปัจจัยจึงเรียกว่า อาหาร.
เหล่าสัตว์ที่ถือกำเนิดเกิดแล้ว ชื่อว่า ภูต ในคำทั้งหลายมีอาทิว่า
ภูตานํ วา สตฺตานํ.
เหล่าสัตว์ที่เสาะหา คือแสวงหาการสมภพ คือการเกิด ได้แก่การ
บังเกิดขึ้น ชื่อว่า สัมภเวสี.
บรรดากำเนิดทั้ง 4 ชนิดเหล่านั้น. เหล่าสัตว์ที่เกิดในฟองและที่
เกิดในหยดน้ำ ตราบใดที่ยังไม่ทำลายกระเปาะฟองและรังมดลูก (ออกมา)
ตราบนั้นก็ยังชื่อว่า สัมภเวสี ต่อเมื่อทำลายกระเปาะฟองและรังมดลูก
ออกมาภายนอกแล้ว จึงชื่อว่า ภูต.
ส่วนสัตว์ที่เกิดแต่เถ้าไคลและผุดเกิด ในขณะแห่งจิตดวงแรก
ชื่อว่า สัมภเวสี ตั้งแต่ขณะแห่งจิตดวงที่ 2 ไป ชื่อว่า ภูต.
อีกอย่างหนึ่ง สัตว์ทั้งหลายจะเกิดโดยอิริยาบถใดก็ตาม ตราบใด