เมนู

เกิดความคิดขึ้นอย่างนี้แหละ สมัยต่อมา (พระโพธิสัตว์) จึงบำเพ็ญบารมี
ด้วยกายและวาจา ตลอดเวลา 4 อสงไขย กำไรแสนกัปแล้ว (ได้
ตรัสรู้) เสด็จดำเนินโปรดสัตวโลกพร้อมทั้งเทวโลก ให้ข้ามพ้น
(โอฆสงสาร) แม้การเกิดความคิดขึ้นในกุศลธรรมทุกอย่างก็มีอุปการะ
มาก ดังที่พรรณนามานี้ แต่การจัดทำตามลำดับด้วยกายและวาจา พึง
ทราบว่า มีอุปการะมากยิ่งทีเดียว. พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงแสดง
จิตตุปบาทเหล่านั้น จึงได้ตรัสคำมีอาทิไว้ว่า ดูก่อนจุนทะ เพราะเหตุ
นั้นแล. คำนั้นโดยเนื้อความปรากฏชัดแล้ว.

อวิหิงสาเหมือนท่าน้ำที่ราบรื่น


[106] พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงแสดงจิตตุปบาทในสัลเลข-
ธรรม ที่พระองค์ทรงแสดงแล้วด้วยอาการ 44 อย่าง ว่ามีอุปการะมาก
อย่างนี้แล้ว บัดนี้ เมื่อจะทรงแสดงสัลเลขธรรมนั้นเองว่าเป็นทางแห่งการ
บรรลุประโยชน์เกื้อกูล จึงได้ตรัสคำมีอาทิไว้ว่า เสยฺยถาปิ ( แม้ฉันใด ).
คำนั้นมีอรรถาธิบายว่า ดูก่อนจุนทะ อุปมาเหมือนว่า มีทางที่ขรุขระไป
ด้วยตอ หนาม และหิน ต้องมีทางอื่นที่ราบเรียบ เหมือนพื้นที่ ๆ
ปรับไว้แล้ว เพื่อหลีก คือเพื่อต้องการเว้นทางที่ขรุขระนั้นฉันใด อนึ่ง
มีท่าน้ำที่ไม่ราบเรียบ มีเหง้าไม้ มีหิน และหลุม เกลื่อนกล่นไปด้วย
อันตราย มีจระเข้และมังกรเป็นต้น ต้องมีท่าน้ำที่ราบเรียบ ลึกลงไปตาม
ลำดับ เช่นกับขั้นบันได เพื่อหลีก คือเพื่อต้องการเว้นท่าน้ำที่ไม่ราบเรียบ
นั้น ซึ่งคนเดินไปแล้ว แวะผสมน้ำหรือสระ. แล้วอาบน้ำหรือขึ้นมาได้
โดยสะดวกฉันใด. ดูก่อนจุนทะ อวิหิงสาก็เช่นนั้นเหมือนกันนั้น