เมนู

ปัตติมรรค มนสิการเฉพาะมนสิการเบื้องต้นเท่านั้น ที่เจือด้วยวิปัสสนา
จะมีการละและการสลัดทิ้ง ทิฏฐิเหล่านี้อย่างนี้ คือ ทิฏฐิเหล่านี้ ด้วยอุบาย
เพียงเท่านี้เท่านั้นได้อย่างไร ? ก็พระเถระถึงแม้ตัวท่านจะไม่มีมานะยิ่ง
(สำคัญว่า ตัวได้บรรลุมรรคผล ) แต่ก็พึงทราบว่า เป็นเสมือนผู้มีมานะ
ยิ่ง ถามปัญหานี้เพื่อละมานะยิ่ง สำหรับภิกษุทั้งหลายผู้มีมานะยิ่ง.
ส่วนอาจารย์เหล่าอื่นกล่าวว่า อันเตวาสิกทั้งหลายของพระเถระ
ที่มีความเข้าใจอย่างนี้ว่า การละทิฏฐิทั้งหลายได้เด็ดขาด มีได้ด้วยมน-
สิการธรรมเบื้องต้นเท่านั้นก็มี ที่มีความเข้าใจว่ามีได้เพราะมีสมาบัติเป็น
วิหารธรรม คือมีธรรมะเครื่องขัดเกลา เป็นวิหารธรรมก็มี ท่านทูลถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อประโยชน์แก่อันเตวาสิกเหล่านั้น.

หน้าที่ของทิฏฐิ


[ 101 ] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงอุบาย
สำหรับละทิฏฐิเหล่านั้นแก่ท่าน จึงได้ตรัสคำมีอาทิว่า ยา อิมา ( ทิฏฐิ)
เหล่านี้ใดไว้. ในคำเหล่านั้นมีความพิสดารว่า คำมีอาทิว่า ยตฺถ
เจตา ทิฏฺฐิโย อุปฺปชฺชนฺติ
( ทิฏฐิเหล่านั้นเกิดขึ้นในที่ใด) ดังนี้
พระองค์ตรัสหมายเอาเบญจขันธ์. อธิบายว่า ทิฏฐิเหล่านั้นเกิดขึ้นใน
เบญจขันธ์เหล่านั้น ดังที่ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อรูปมีอยู่ เพราะ
ยึดมั่นรูป เกิดทิฏฐิขึ้น อย่างนี้ว่า เราคืออัตตา และโลก ละโลกนี้ไป
แล้วจักยังมี ( เพราะว่า ) อัตตานั้น โลกนั้น เป็นของเที่ยง ยั่งยืน
ติดต่อกันไป มีความไม่แปรไปเป็นธรรมดา. แต่พระองค์ตรัสไว้เป็น
เอกพจน์ว่า ยตฺถ จ ( แปลว่า ในอารมณ์ใด ) ด้วยอำนาจแห่งอารมณ์