เมนู

อุปมาด้วยช่างทำรถ


[72] เมื่อท่านพระสารีบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระมหา-
โมคคัลลานะ
ได้กล่าวกะท่านพระสารีบุตรว่า ท่านพระสารีบุตรขอรับ
อุปมาย่อมแจ่มแจ้งแก่กระผม ท่านพระสารีบุตรจึงกล่าวว่า ท่านพระ
มหาโมคคัลลานะ
อุปมาจงแจ่มแจ้งแก่ท่านเถิด.
ม. ท่านขอรับ สมัยกาลครั้งหนึ่ง กระผมอยู่ ณ กรุงราชคฤห์
อันเป็นคอกเขา1. ครั้งนั้น เวลาเช้า กระผมนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร
เข้าไปยังกรุงราชคฤห์เพื่อบิณฑบาต. ก็สมัยนั้น บุตรนายช่างทำรถชื่อ
สมีติ ถากกงรถอยู่ อาชีวกชื่อปัณฑุบุตร เป็นบุตรช่างทำรถเก่าเข้าไป
ยืนอยู่ใกล้นายสมีตินั้น ครั้งนั้น อาชีวกปัณฑุบุตร บุตรช่างทำรถเก่า
เกิดความดำริในใจอย่างนี้ว่า กระไรหนอ บุตรช่างทำรถนี้ พึงถากส่วน
โค้ง ส่วนคด กะพี้ และปมตรงนี้แห่งกงนี้ออกเสีย. เมื่อเป็นเช่นนี้ กง
นี้ก็จะสิ้นโค้ง สิ้นคด สิ้นกะพี้และปม พึงเหลือแก่นล้วน ๆ. อาชีวก-
ปัณฑุบุตร
บุตรช่างทำรถเก่า มีความดำริในใจ ฉันใด ๆ นายสมีติ
บุตรช่างทำรถก็ถากส่วนที่โค้ง ที่คด กะพี้ และปมแห่งกงนั้น ฉันนั้น ๆ.
ครั้งนั้น อาชีวกปัณฑุบุตร บุตรช่างทำรถเก่า ดีใจ เปล่งวาจาแสดง
ความดีใจว่า นายสมีติบุตรช่างทำรถ ถากเหมือนจะรู้ใจด้วยใจ ฉันใด.
ท่านขอรับ บุคคลทั้งหลายก็ฉันนั้น ไม่มีศรัทธา เป็นผู้ต้องการจะเลี้ยง
ชีวิต ไม่ออกบวชเป็นอนาคาริกด้วยศรัทธา เป็นคนมักโอ้อวด เจ้ามารยา
หลอกลวง ฟุ้งซ่าน ถือตน กลับกลอก ปากกล้า พูดจาเลอะเทอะ
ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ไม่รู้ประมาณในโภชนะ ไม่ประกอบ
1. คือมีเขาล้อมเป็นคอก.