เมนู

ตรอก ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ครองจีวรเศร้าหมองอยู่ ถึงอย่างนั้น เพื่อน
พรหมจรรย์ทั้งหลายก็ไม่สักการะ เคารพ นับถือ บูชาภิกษุนั้น. ข้อนั้น
เพราะเหตุอะไร ? เพราะอิจฉาวจรที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้น. อันท่าน
ผู้มีอายุนั้นยงละไม่ได้ ชนทั้งหลายยังเห็นอยู่ และยังได้ยินอยู่. เปรียบ
เหมือนถาดทองสัมฤทธิ์ที่บุคคลนำมาแต่ร้านตลาด หรือแต่สกุลช่างทอง
เป็นของสะอาดหมดจด. เจ้าของเอาซากศพงู ซากศพสุนัข หรือซากศพ
มนุษย์วางลงในถาดทองสัมฤทธิ์นั้น ปิดด้วยถาดทองสัมฤทธิ์ใบอื่น แล้ว
เดินไปร้านตลาด. ชนเห็นถาดทองสัมฤทธิ์นั้นแล้ว จะต้องพูดว่า พ่อคุณ
สิ่งที่ท่านนำไปนี้คืออะไร ? น่ารู้น่าสนใจ. เขาพึงลุกขึ้นเปิดถาดทองสัมฤทธิ์
นั้นดู พร้อมกับการเห็นซากศพนั้น ก็เกิดความไม่พอใจ ความเกลียดชัง
แม้คนที่หิวก็ไม่ปรารถนาจะบริโภค ไม่ต้องกล่าวถึงคนที่บริโภคอิ่มแล้ว
ฉันใด.
อิจฉาวจรที่เป็นบาปอกุศลเหล่านี้ ก็ฉันนั้น ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง
ยังละไม่ได้แล้ว อันชนทั้งหลายยังเห็น ยังได้ยินอยู่ แม้เธอจะอยู่ในป่า
มีเสนาสนะอันสงัด ถือบิณฑบาตเป็นวัตร เที่ยวบิณฑบาตตามลำดับตรอก
ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ครองจีวรเศร้าหมอง ถึงอย่างนั้น เพื่อนพรหม-
จรรย์ทั้งหลายก็ไม่สักการะ เคารพ นับถือบูชาภิกษุนั้น ข้อนั้น เพราะ
เหตุอะไร ? เพราะอิจฉาวจรที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้น ท่านผู้มีอายุนั้นยัง
ละไม่ได้ อันชนทั้งหลายยังเห็นอยู่ ยังได้ยินอยู่.

อิจฉาวจรอกุศลที่ละได้แล้ว


[71] ดูก่อนท่านผู้มีอายุ อิจฉาวจรที่เป็นบาปอกุศลเหล่านี้ อัน

ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งละได้แล้ว ชนทั้งหลายยังเห็นอยู่ ยังได้ยินอยู่. แม้เธอ
จะอยู่ในเสนาสนะท้ายบ้าน รับนิมนต์ ครองคฤหบดีจีวร ถึงอย่างนั้น
เพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายก็ยังสักการะ เคารพ นับถือ บูชาภิกษุนั้น.
ข้อนั้น เพราะเหตุอะไร ? เพราะอิจฉาวจรที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้น อัน
ท่านผู้มีอายุนั้นละได้แล้ว ชนทั้งหลายยังเห็น และยังได้ยินอยู่ เปรียบ
เหมือนภาชนะสัมฤทธิ์ที่บุคคลนำมาแต่ร้านตลาด หรือแต่สกุลช่างทอง
เป็นของสะอาดหมดจด เจ้าของเอาข้าวสุกแห่งข้าวสาลีที่เลือกเอาของดำออก
แล้ว เอาแกงและกับหลายอย่างวางลงในถาดทองสัมฤทธิ์นั้น ปิดด้วยถาด
ทองสัมฤทธิ์อื่น แล้วเดินไปยังร้านตลาด. ชนเห็นถาดทองสัมฤทธิ์นั้นแล้ว
จะต้องพูดอย่างนี้ว่า พ่อคุณ สิ่งที่ท่านนำไปนี้คืออะไร น่ารู้ น่าสนใจ
เขาพึงลุกขึ้นเปิดถาดทองสัมฤทธิ์นั้นดู พร้อมกับการเห็นข้าวสุกแห่งข้าว
สาลีขาวสะอาดมีแกงและกับหลายอย่างนั้น ก็เกิดความพอใจ ไม่เกลียดชัง
แม้คนที่บริโภคอิ่มแล้ว ก็ยังปรารถนาจะบริโภค ไม่ต้องกล่าวถึงคนที่หิว
ฉันใด.
อิจฉาวจรที่เป็นบาปอกุศลเหล่านี้ ก็ฉันนั้น ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งละ
ได้แล้ว อันชนทั้งหลายยังเห็นอยู่ และยังได้ยินอยู่. แม้เธอจะอยู่ใน
เสนาสนะท้ายบ้านเป็นปกติ รับนิมนต์ ครองคฤหบดีจีวร ถึงอย่างนั้น เพื่อน
พรหมจรรย์ทั้งหลายก็ยังสักการะ เคารพ นับถือ บูชาภิกษุนั้น. ข้อนั้น
เพราะเหตุอะไร ? เพราะอิจฉาวจรที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้น ท่านผู้มีอายุ
นั้นละได้แล้ว อันชนทั้งหลายยังเห็น และยังได้ยินอยู่.

อุปมาด้วยช่างทำรถ


[72] เมื่อท่านพระสารีบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระมหา-
โมคคัลลานะ
ได้กล่าวกะท่านพระสารีบุตรว่า ท่านพระสารีบุตรขอรับ
อุปมาย่อมแจ่มแจ้งแก่กระผม ท่านพระสารีบุตรจึงกล่าวว่า ท่านพระ
มหาโมคคัลลานะ
อุปมาจงแจ่มแจ้งแก่ท่านเถิด.
ม. ท่านขอรับ สมัยกาลครั้งหนึ่ง กระผมอยู่ ณ กรุงราชคฤห์
อันเป็นคอกเขา1. ครั้งนั้น เวลาเช้า กระผมนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร
เข้าไปยังกรุงราชคฤห์เพื่อบิณฑบาต. ก็สมัยนั้น บุตรนายช่างทำรถชื่อ
สมีติ ถากกงรถอยู่ อาชีวกชื่อปัณฑุบุตร เป็นบุตรช่างทำรถเก่าเข้าไป
ยืนอยู่ใกล้นายสมีตินั้น ครั้งนั้น อาชีวกปัณฑุบุตร บุตรช่างทำรถเก่า
เกิดความดำริในใจอย่างนี้ว่า กระไรหนอ บุตรช่างทำรถนี้ พึงถากส่วน
โค้ง ส่วนคด กะพี้ และปมตรงนี้แห่งกงนี้ออกเสีย. เมื่อเป็นเช่นนี้ กง
นี้ก็จะสิ้นโค้ง สิ้นคด สิ้นกะพี้และปม พึงเหลือแก่นล้วน ๆ. อาชีวก-
ปัณฑุบุตร
บุตรช่างทำรถเก่า มีความดำริในใจ ฉันใด ๆ นายสมีติ
บุตรช่างทำรถก็ถากส่วนที่โค้ง ที่คด กะพี้ และปมแห่งกงนั้น ฉันนั้น ๆ.
ครั้งนั้น อาชีวกปัณฑุบุตร บุตรช่างทำรถเก่า ดีใจ เปล่งวาจาแสดง
ความดีใจว่า นายสมีติบุตรช่างทำรถ ถากเหมือนจะรู้ใจด้วยใจ ฉันใด.
ท่านขอรับ บุคคลทั้งหลายก็ฉันนั้น ไม่มีศรัทธา เป็นผู้ต้องการจะเลี้ยง
ชีวิต ไม่ออกบวชเป็นอนาคาริกด้วยศรัทธา เป็นคนมักโอ้อวด เจ้ามารยา
หลอกลวง ฟุ้งซ่าน ถือตน กลับกลอก ปากกล้า พูดจาเลอะเทอะ
ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ไม่รู้ประมาณในโภชนะ ไม่ประกอบ
1. คือมีเขาล้อมเป็นคอก.