เมนู

เถระเจ้า ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระ
จุนทสมณุเทสนี้ได้บอกว่า นิคัณฐนาฏบุตรได้ถึงแก่กรรมเสียแล้ว เมื่อไม่
นานมานี้ เพราะนิคัณฐนาฏบุตรถึงแก่กรรม พวกนิครณฐ์แตกกัน เกิด
แยกเป็นสองพวก ฯลฯ โดยเหตุที่ธรรมวินัยที่นิคัณฐนาฏบุตรกล่าวไว้
ไม่ดี ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมวินัยที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกจากทุกข์
ได้ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบ ไม่ใช่ธรรมวินัยที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะ
ประกาศไว้ เป็นธรรมวินัยที่ถูกทำลายเสียแล้ว เป็นธรรมวินัยไม่มีที่พึ่ง
พาอาศัย.

ว่าด้วยธรรมวินัยที่กล่าวไว้ไม่ดี



[96] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนจุนทะ ข้อนี้ย่อมเป็น
อย่างนั้น ในธรรมวินัยที่ศาสดากล่าวไว้ไม่ดี ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรม-
วินัยที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบ ไม่ใช่
ธรรมวินัยที่สัมมาสัมพุทธะประกาศไว้. ดูก่อนจุนทะ ศาสดาในโลกนี้ไม่
เป็นสัมมาสัมพุทธะ และธรรมก็เป็นธรรมที่ศาสดานั้นกล่าวไว้ไม่ดี. ประกาศ
ไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่เป็นไปเพื่อ
ความสงบ ไม่ใช่ธรรมที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ และ สาวก
ไม่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมในธรรมนั้นอยู่ ไม่เป็นผู้ปฏิบัติ
ชอบ ไม่เป็นผู้ประพฤติตามธรรม และประพฤติหลีกเลี่ยงจากธรรม
นั้น สาวกนั้นควรที่ใคร ๆ จะกล่าวได้อย่างนี้ว่า ดูก่อนผู้มีอายุ
เป็นลาภของท่าน ท่านได้ดีแล้ว ศาสดาของท่านไม่เป็นสัมมาสัมพุทธะ
และธรรมก็เป็นธรรมที่ศาสดานั้นกล่าวไว้ไม่ดี ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็น
ธรรมที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่เป็นเพื่อความสงบ ไม่ใช่

ธรรมที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ แต่ท่านไม่เป็นผู้ปฏิบัติธรรม สม
ควรแก่ธรรมในธรรมนั้นอยู่ไม่เป็นผู้ปฎิบัติชอบไม่เป็นผู้ประพฤติตามธรรม
และประพฤติหลีกเลี่ยงจากธรรมนั้น. ดูก่อนจุนทะ ด้วยเหตุนี้แล มีศาสดา
ก็เป็นผู้ควรถูกติเตียนในธรรมนั้น แม้ธรรมก็ควรถูกติเตียน แต่สาวกควรได้
รับการสรรเสริญในธรรมนั้นอย่างนี้. ดูก่อนจุนทะ ผู้ใดแลพึงกล่าวกะสาวก
เห็นปานนั้นอย่างนี้ว่า ท่านจงปฏิบัติตามธรรมที่ศาสดาของท่านแสดงไว้แล้ว
บัญญัติไว้แล้วเถิด. ผู้ที่ชักชวน ผู้ที่ถูกชักชวน และผู้ที่เขาชักชวนแล้ว ปฏิ-
บัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น คนทั้งหมดนั้นจะประสบสิ่งที่ไม่ใช่บุญ เป็น
อันมาก. ข้อนั้นเพราะเหตุไร. ดูก่อนจุนทะ เพราะว่า ข้อนี้ย่อมมีในธรรม
วินัย ที่ศาสดากล่าวไว้ไม่ดี ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมวินัยที่จะนำผู้
ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบ มิใช่ธรรมวินัยที่
พระสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้อย่างนี้แล.
[97] ดูก่อนจุนทะ อนึ่ง ศาสดาในโลกไม่เป็นสัมมาสัมพุทธะ
และธรรมเป็นธรรมที่ศาสดานั้นกล่าวไว้ไม่ดี ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรม
ที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบ มิใช่ธรรม
ที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ และสาวกก็เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควร
แก่ธรรมในธรรมนั้นอยู่ เป็นผู้ปฏิบัติชอบ เป็นผู้ประพฤติตามธรรา ย่อม
ยึดถือประพฤติธรรมนั้น สาวกนั้นควรที่ใคร ๆ จะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า ดู
ก่อนอาวุโส ไม่เป็นลาภของท่าน ท่านได้ไม่ดีแล้ว และศาสดาของท่าน
ก็ไม่เป็นสัมมาสัมพุทธะ และธรรมก็เป็นธรรมที่ศาสดากล่าวไว้ไม่ดี ประ-
กาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมที่จะนำผู้ปฏิบัติ ให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่เป็นไป
เพื่อความสงบ มิใช่ธรรมที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ ทั้งตัวท่าน

ก็เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม เป็นผู้ปฏิบัติชอบ เป็นผู้ปฏิบัติตามธรรม
ย่อมยึดถือประพฤติธรรมนั้น. ดูก่อนจุนทะ ด้วยเหตุดังนี้แล แม้ศาสดาก็
เป็นผู้ควรถูกติเตียนในธรรมนั้น แม้ธรรมก็ควรถูกติเตียน แม้สาวกก็เป็น
ผู้ควรถูกติเตียนในธรรมนั้นอย่างนี้. ดูก่อนจุนทะ ผู้ใดพึงกล่าวกะสาวก
เห็นปานนั้นอย่างนี้ว่า ท่านเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อธรรมอันควรรู้ จักยังธรรมที่ควร
รู้ให้สำเร็จได้โดยแท้. ผู้ที่สรรเสริญ ผู้ที่รับสรรเสริญ และผู้ที่ได้รับสรร-
เสริญแล้ว ปรารภความเพียรโดยประมาณยิ่ง คนทั้งหมดนั้น ย่อมประสบ
สิ่งที่ไม่ใช่บุญเป็นอันมาก. ข้อนั้นเพราะเหตุไร. ดูก่อนจุนทะ เพราะว่า
ข้อนี้ย่อมมีในธรรมวินัยมีศาสดากล่าวไว้ไม่ดี ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรม
วินัยที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบ มิใช่
ธรรมวินัยที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้อย่างนี้แล.
[98] ดูก่อนจุนทะ อนึ่ง ศาสดาในโลกนี้ เป็นสัมมาสัมพุทธะ
และธรรมก็เป็นธรรมอันศาสดานั้นกล่าวไว้ดีแล้ว ประกาศไว้ดีแล้ว เป็น
ธรรมที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้เป็นไปเพื่อความสงบ เป็นธรรม
ที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ แต่สาวกไม่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควร
แก่ธรรมในธรรมนั้นอยู่ ไม่เป็นผู้ปฏิบัติชอบ ไม่เป็นผู้ประพฤติตามธรรม
และย่อมประพฤติหลีกเลี่ยงจากธรรมนั้น สาวกนั้นควรจะกล่าวอย่างนี้ว่า ดู
ก่อนผู้มีอายุ ไม่เป็นลาภของท่าน ท่านได้ไม่ดีแล้วด้วยว่าศาสดาของท่าน เป็น
สัมมาสัมพุทธะ และธรรมก็เป็นธรรมที่ศาสดานั้นกล่าวไว้ดีแล้ว ประกาศไว้
ดีแล้ว เป็นธรรมที่จำนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ เป็นไปเพื่อความ
สงบ เป็นธรรมที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ แต่ว่าตัวท่านไม่

เป็นผู้ปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรมในธรรมนั้นอยู่ ไม่เป็นผู้ปฏิบัติชอบ ไม่
เป็นผู้ประพฤติตามธรรม และย่อมประพฤติหลีกเลี่ยงจากธรรมนั้น. ด้วยเหตุ
ดังนี้แล ดูก่อนจุนทะ แม้ศาสดาก็ควรได้รับการสรรเสริญในธรรมนั้น แม้
ธรรมก็ควรได้รับการสรรเสริญ แต่ว่า สาวกควรได้รับการติเตียนในธรรมนั้น
อย่างนี้. ดูก่อนจุนทะ ผู้ได้แลพึงกล่าวกะสาวกเห็นปานนั้นอย่างนี้ว่า ท่าน
จงปฏิบัติธรรมที่ศาสดาของท่านแสดงไว้แล้ว บัญญัติไว้แล้วเถิด. ผู้ที่ชักชวน
ผู้ที่ถูกชักชวน ผู้ที่ถูกชักชวนแล้วย่อมปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น คนทั้ง
หมดนั้นจะประสบบุญเป็นอันมาก. ข้อนั้นเพราะเหตุไร. ดูก่อนจุนทะ
เพราะว่าข้อนี้มีอยู่ในธรรมวินัยที่พระศาสดากล่าวไว้ดีแล้ว ประกาศไว้ดีแล้ว
เป็นธรรมที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ เป็นไปเพื่อความสงบ เป็น
ธรรมที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้อย่างนี้แล.
[99] ดูก่อนจุนทะ อนึ่ง ศาสดาในโลกนี้เป็นสัมมาสัมพุทธะ
และธรรมก็เป็นธรรมที่ศาสดานั้นกล่าวไว้ดีแล้ว ประกาศไว้ดีแล้ว เป็น
ธรรมที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ เป็นไปเพื่อความสงบ เป็นธรรม
ที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ ทั้งสาวกก็เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสม-
ควรแก่ธรรมในธรรมนั้นอยู่ เป็นผู้ปฏิบัติชอบ เป็นผู้ประพฤติตามธรรม
ย่อมยึดถือปฏิบัติธรรมนั้น สาวกนั้นควรที่ใคร ๆ จะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า
ดูก่อนผู้มีอายุ เป็นลาภอย่างยิ่งของท่าน ท่านได้ดีแล้ว ด้วยว่า ศาสดาของ
ท่าน. ก็เป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธะ ธรรมก็เป็นธรรมที่ศาสดานั้นกล่าวไว้ดี
แล้ว ประกาศไว้ดีแล้ว เป็นธรรมที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์
ได้ เป็นไปเพื่อความสงบ เป็นธรรมที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศ

ไว้ ทั้งตัวท่านก็เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมในธรรมนั้นอยู่ เป็นผู้
ปฏิบัติชอบเป็นผู้ประพฤติตามธรรม ย่อมยึดถือประพฤติธรรมนั้น. ดูก่อน
จุนทะ ด้วยเหตุดังนี้แลแม้ศาสดาก็ควรได้รับความสรรเสริญในธรรมนั้น
แม้ธรรมก็ควรได้รับความสรรเสริญ แม้สาวกก็ควรได้รับความสรรเสริญใน
ธรรมนั้นอย่างนี้. ดูก่อนจุนทะ ผู้ใดแลพึงกล่าวกะสาวกเห็นปานนั้นอย่าง
นี้ว่า ท่านเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อธรรมอันควรรู้ จักยังธรรมอันควรรู้ให้สำเร็จ
ได้โดยแท้. ผู้ที่สรรเสริญผู้ที่ได้รับสรรเสริญ ผู้ที่ได้รับสรรเสริญแล้วย่อม
ปรารภความเพียรโดยประมาณยิ่ง คนทั้งหมดนั้นจะประสบบุญเป็นอันมาก.
ข้อนั้นเพราะเหตุไร. ดูก่อนจุนทะ เพราะว่าข้อนี้ย่อมมีในธรรมวินัยที่
ศาสดากล่าวไว้ดีแล้ว ประกาศไว้ดีแล้ว เป็นธรรมที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไป
จากทุกข์ได้ เป็นไปเพื่อความสงบ เป็นธรรมที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะ
ประกาศไว้อย่างนี้แล.

ว่าด้วยกาลกิริยาของศาสดา



[100] ดูก่อนจุนทะ ศาสดาผู้เป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธะเกิด
ขึ้นแล้วในโลกนี้ และธรรมอันศาสดานั้นกล่าวไว้ดีแล้ว ประกาศไว้ดี
แล้ว เป็นธรรมที่นำปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ เป็นไปเพื่อความสงบ
เป็นธรรมที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ แต่สาวกทั้งหลายของ
ศาสดานั้นเป็นผู้ไม่รู้แจ้งเนื้อความในสัทธรรม และพรหมจรรย์ อัน
บริบูรณ์สิ้นเชิง เป็นคำสอนอันศาสดาของสาวกเหล่านั้นทำให้แจ้งแล้ว
ทำให้ตื้นแล้ว ทำให้มีบทรวบรวมไว้พร้อมแล้ว ทำให้มีปาฏิหาริย์ ครั้นต่อมา
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายประกาศไว้ด้วยดี แก่สาวกเหล่านั้น ครั้นต่อมา
ศาสดาของสาวกเหล่านั้นย่อมอันตรธานไป. ดูก่อนจุนทะ ศาสดาเห็น