โสณทัณฑสูตร
[178] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้.
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จจาริกไปในอังคชนบทพร้อม
ด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ประมาณ 500 รูป เสด็จถึงนครจัมปา. ได้ทราบว่า
สมัยนั้นพระองค์ประทับอยู่ใกล้ขอบสระโบกขรณีคัคครา ในนครจัมปา.
เสด็จนครจัมปา
[179] ก็สมัยนั้น พราหมณ์โสณทัณฑะ ครองนครจัมปา ซึ่งคับคั่ง
ด้วยประชาชนและหมู่สัตว์ อุดมด้วยหญ้า ด้วยไม้ ด้วยน้ำ สมบูรณ์
ด้วยธัญญาหาร ซึ่งเป็นราชสมบัติ อันพระเจ้าแผ่นดินมคธจอมเสนา พระ-
นามว่า พิมพิสาร พระราชทานปูนบำเหน็จให้เป็นส่วนพรหมไทย พราหมณ์
และคฤหบดีชาวนครจัมปา ได้สดับข่าวว่า พระสมณโคดมศากยบุตร ทรง
ผนวชจากศากยสกุล เสด็จจาริกไปในอังคชนบท พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์
หมู่ใหญ่ประมาณ 500 รูป เสด็จถึงนครจัมปา ประทับอยู่ใกล้ขอบสระ
โบกขรณี ชื่อคัคครา ในนครจัมปา เกียรติศัพท์อันงามของพระโคดม
พระองค์นั้นขจรไปแล้วดังนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระ
องค์นั้น เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้โลก เป็นสารถีฝึกคนที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า
เป็นพระศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้
จำแนกพระธรรม พระองค์ทรงทำโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก
พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เองแล้ว ทรงสอนหมู่
สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม ทรงแสดงธรรม
งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์
พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ก็การเห็น
พระอรหันต์ทั้งหลายเห็นปานนั้น ย่อมเป็นการดีแล ดังนี้ ครั้งนั้นพราหมณี
และคฤหบดีชาวนครจัมปา ออกจากนครจัมปารวมกันเป็นหมู่ ๆ พากันไป
ยังสระโบกขรณีคัคครา.
โสณทัณฑพราหมณ์เข้าเฝ้า
[180] สมัยนั้น พราหมณ์โสณทัณฑะนอนกลางวันอยู่ ณ ปราสาท
ชั้นบน ได้เห็นพราหมณ์และคฤหบดีชาวนครจัมปา ออกจากนครจัมปา
รวมกันเป็นหมู่ ๆ พากันไปยังสระโบกขรณีคัคครา จงเรียกที่ปรึกษามาถาม
ว่า พราหมณ์และคฤหบดีชาวนครจัมปาออกจากนครจัมปารวมกันเป็นหมู่ ๆ
ไปยังสระโบกขรณีคัคครา ทำไมกัน. ที่ปรึกษาบอกว่า เรื่องมีอยู่ขอรับ
พระสมณโคดมศากยบุตร ทรงผนวชจากศากยสกุล เสด็จจาริกไปในอังค-
ชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ 500 รูป เสด็จถึงนครจัมปา
ประทับอยู่ใกล้ขอบสระโบกขรณีคัคคราในนครจัมปา เกียรติศัพท์อันงาม
ของพระองค์ขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชา
และจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้โลก ทรงเป็นสารถีฝึกคนที่ควรฝึก ไม่มี
ผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นพระศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเป็นผู้เบิกบาน
แล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม พราหมณ์และคฤหบดีเหล่านั้นพากันไปเฝ้า
พระโคดมพระองค์นั้น. โสณทัณฑะกล่าวว่า ถ้าเช่นนั้น ท่านจงไปหาเขา
แล้วบอกเขาอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย พราหมณ์โสณทัณฑะสั่งว่า ขอให้ท่าน
ทั้งหลายจงรอก่อน พราหมณ์โสณทัณฑะจะไปเฝ้าพระสมณโคดมด้วย. ที่
ปรึกษารับคำแล้วไปหาพราหมณ์และคหบดีชาวนครจัมปา แล้วบอกตามคำ
สั่งว่า พราหมณ์โสณทัณฑะสั่งว่า ขอท่านทั้งหลายจงรอก่อน พราหมณ์
โสณทัณฑะจะไปเฝ้าด้วย.
[181] สมัยนั้น พวกพราหมณ์ต่างเมืองประมาณ 500 คนพักอยู่ใน
นครจัมปาด้วยกรณียกิจบางอย่าง. เขาได้ทราบว่า พราหมณ์โสณทัณฑะ
จักไปเฝ้าพระสมณโคดม จึงพากันเข้าไปหาแล้วถามว่า ได้ทราบว่า ท่านจัก
ไปเฝ้าพระสมณโคดมจริงหรือ. โสณทัณฑะตอบว่า ท่านผู้เจริญ เราคิดว่าจัก
ไปเฝ้าพระสมณโคดมจริง พวกพราหมณ์กล่าวว่า อย่าเลย ท่านโสณทัณฑะ
ท่านไม่ควรไปเฝ้าพระสมณโคดม ถ้าท่านไป ท่านจะเสียเกียรติยศ เกียรติยศ
ของพระสมณโคดมจักรุ่งเรือง ด้วยเหตุนี้แหละ ท่านจึงไม่ควรไป พระ
สมณโคดมต่างหากควรจะเสด็จมาหาท่าน อนึ่ง ท่านเป็นอุภโตสุชาต ทั้ง
ฝ่ายมารดาและบิดา มีครรภ์เป็นที่ถือปฏิสนธิหมดจดดีตลอด 7 ชั่วคน ไม่
มีใครจะคัดค้านติเตียนได้ด้วยการกล่าวอ้างถึงชาติ เพราะเหตุนี้ ท่านจึงไม่
ควรไปเฝ้าพระสมณโคดม พระสมณโคดมต่างหากคารจะเสด็จมาหาท่าน
อนึ่ง ท่านเป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคสมบัติมาก....อนึ่ง ท่านเป็นผู้
คงแก่เรียน ทรงจำมนต์ รู้จบไตรเพท พร้อมทั้งคัมภีร์นิฆัณฑุ คัมภีร์
เกตุภะ พร้อมทั้งประเภทอักษร มีคัมภีร์อิติหาส เป็นที่ห้า เป็นผู้เข้าใจ
ตัวบท เป็นผู้เข้าใจไวยากรณ์ ชำนาญในคัมภีร์โลกายตะ และมหาปุริส-
ลักษณะ อนึ่ง ท่านมีรูปงาม น่าดู น่าเลื่อมใส ประกอบด้วยผิวพรรณผุด
ผ่องยิ่งนัก มีวรรณคล้ายพรหม มีรูปร่างคล้ายพรหม น่าดู น่าชมไม่น้อย
อนึ่ง ท่านเป็นผู้มีศีล มีศีลยั่งยืน ประกอบด้วยศีลยั่งยืน อนึ่ง ท่านเป็นผู้มี
วาจาไพเราะ มีสำเนียงไพเราะ ประกอบด้วยวาจาของชาวเมือง สละสลวย
หาโทษมิได้ ให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อความได้ชัด อนึ่ง ท่านเป็นอาจารย์และ
ปาจารย์ของชนหมู่มาก สอนมนต์แก่มาณพถึง 300 คน มาณพเป็นอันมาก
ต่างทิศต่างชนบทผู้ต้องการมนต์ ใคร่จะเรียนมนต์ในสำนักของท่านพากัน
มา อนึ่ง ท่านเป็นคนแก่เฒ่า เป็นผู้ใหญ่ล่วงกาลผ่านวัยมาโดยลำดับ ส่วน
พระสมณโคดมเป็นคนหนุ่ม และบวชแต่ยังหนุ่ม อนึ่ง ท่านเป็นผู้อันพระ
เจ้าแผ่นดินมคธ จอมเสนา พระนามว่า พิมพิสาร ทรงสักการะเคารพ
นับถือ บูชา นอบน้อม อนึ่ง ท่านเป็นผู้อันพราหมณ์โปกขรสาติสีกการะ
เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม อนึ่ง ท่านครองนครจัมปาซึ่งคับคั่งด้วย
ประชาชนและหมู่สัตว์ อุดมด้วยหญ้า ด้วยไม้ ด้วยน้ำ สมบูรณ์ด้วย
ธัญญาหาร ซึ่งเป็นราชสมบัติอันพระเจ้าแผ่นดินมคธ จอมเสนา พระนามว่า
พิมพิสาร พระราชทานปูนบำเหน็จให้เป็นส่วนพรหมไทย เพราะเหตุนี้
แหละท่านจึงไม่ควรไปเฝ้าพระสมณโคดม พระสมณโคดมต่างหาก ควรจะ
เสด็จมาหาท่าน ดังนี้.
พระพุทธคุณ
[182] เมื่อพวกพราหมณ์กล่าวอย่างนี้แล้ว พราหมณ์โสณทัณฑะ
ได้กล่าวว่า ท่านทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้น ขอพวกท่านจงฟังข้าพเจ้าบ้าง เรา
นี้แหละควรไปเฝ้าพระโคดมพระองค์นั้น พระโคดมไม่ควรเสด็จมาหาเรา
ได้ทราบว่า พระสมณโคดม เป็นอุภโตสุชาต ทั้งฝ่ายพระมารดาและ
พระบิดา มีพระครรภ์ที่ทรงถือปฏิสนธิหมดจดดีตลอด 7 ชั่วคน ไม่มีใคร
จะคัดค้านติเตียนได้ด้วยการกล่าวอ้างถึงพระชาติ เพราะเหตุนี้แหละ พระ
โคดมจึงไม่ควรเสด็จมาหาเรา ที่ถูกเรานี้แหละควรจะไปเฝ้าพระองค์ ได้
ทราบว่า พระสมณโคดม ทรงสละพระญาติหมู่ใหญ่ออกทรงผนวช ทรง
สละเงินและทองเป็นอันมาก ทั้งที่อยู่ในพื้นดิน ทั้งที่อยู่ในอากาศออก
ทรงผนวช พระองค์กำลังหนุ่ม มีพระเกศาดำสนิท ทรงพระเจริญด้วย
ปฐมวัย ออกทรงผนวชเป็นบรรพชิต เมื่อพระมารดาและพระบิดาไม่
ทรงปรารถนาให้ทรงผนวช มีพระพักตร์อาบด้วยน้ำพระเนตรทรงกันแสง
อยู่ พระองค์ทรงปลงพระเกศาและพระมัสสุ ทรงครองผ้ากาสาว-
พัสตร์เสด็จออกผนวชเป็นบรรพชิต พระองค์มีพระรูปงาม น่าดู น่า
เลื่อมใส ประกอบด้วยพระฉวีวรรณผุดผ่องยิ่งนัก มีพระวรรณคล้ายพรหม
มีพระรูปคล้ายพรหม น่าดู น่าชมไม่น้อย พระองค์เป็นผู้มีศีล มีศีลอันประ-
เสริฐ มีศีลเป็นกุศล ประกอบด้วยศีลเป็นกุศล พระองค์มีพระวาจาไพเราะ
มีพระสำเนียงไพเราะ ประกอบด้วยวาจาของชาวเมือง สละสลวย หาโทษมิ
ได้ ให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อความได้ชัด พระองค์เป็นอาจารย์และปาจารย์ของคน
หมู่มาก พระองค์สิ้นกามราคะแล้ว เลิกประดับประดาแต่งแล้ว พระ
องค์เป็นกรรมวาที เป็นกิริยวาที ไม่ทรงมุ่งร้ายแก่พวกพราหมณ์ พระ
องค์ทรงผนวชจากสกุลสูง คือ สกุลกษัตริย์อันไม่เจือปน พระองค์ทรงผนวช
จากสกุลมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคสมบัติมาก ชนต่างรัฐต่างชนบทพากัน
มาทูลถามปัญหากะพระองค์ เทวดาหลายพันนอบชีวิตถึงพระองค์เป็นสรณะ
พระเกียรติศัพท์อันงามของพระองค์ขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึง
พร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้โลก ทรงเป็นสารถี
ฝึกคนที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นพระศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้ง-
หลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้ทรงจำแนกพระธรรม ดังนี้ พระองค์ทรง
ประกอบด้วยมหาปุริลักษณะ 32 ประการ พระองค์มีปกติกล่าวเชื้อเชิญ
เจรจาผูกไมตรี ช่างปราศรัย พระพักตร์ไม่สยิ้ว เบิกบาน มีปกติตรัส
ก่อน พระองค์เป็นผู้อันบริษัท 4 สักการะ เคารพนับถือบูชา นอบน้อม
เทวดาและมนุษย์จำนวนมากเลื่อมใสในพระองค์ยิ่งนัก พระองค์ทรงพำนัก
อยู่ในหมู่บ้านหรือในนิคมใด ในหมู่บ้าน หรือในนิคมนั้นไม่มีอมนุษย์เบียด-
เบียนมนุษย์ พระองค์ทรงเป็นเจ้าหมู่เจ้าคณะและทรงเป็นคณาจารย์ได้รับยก
ย่องว่า เป็นยอดของเจ้าลัทธิเป็นอันมาก สมณพราหมณ์เหล่านี้รุ่งเรืองยศ
ด้วยประการใด ๆ แต่พระสมณโคดมไม่อย่างนั้น ที่แท้พระสมณโคดมรุ่ง
เรืองพระยศ ด้วยวิชชาและจรณสมบัติอันยอดเยี่ยม พระเจ้าแผ่นดินมคธ
จอมเสนา พระนามว่า พิมพิสาร พร้อมทั้งพระโอรส และพระมเหสี ทั้ง
ราชบริพารและอำมาตย์ ทรงมอบชีวิต ถึงพระองค์เป็นสรณะ พระเจ้า
ปเสนทิโกศล พร้อมทั้งพระโอรส และพระมเหสีทั้งราชบริพารและอำมาตย์
ทรงมอบชีวิตถึงพระองค์เป็นสรณะ พราหมณ์โปกขรสาติพร้อมทั้งบุตรและ
ภรรยา ทั้งบริวารและอำมาตย์ มอบชีวิตถึงพระองค์เป็นสรณะพระองค์
เป็นผู้อันพระเจ้าแผ่นดินมคธ จอมเสนา พระนามว่า พิมพิสาร ทรง
สักการะเคารพนับถือบูชา นอบน้อม พระองค์เป็นผู้อันพระเจ้าปเสนทิโกศล
ทรงสักการะ เคารพ นับถือ บูชานอบน้อม พระองค์เป็นผู้อันพราหมณ์
โปกขรสาติทรงสักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม พระองค์เสด็จถึง
นครจัมปา ประทับอยู่ ณ ขอสระโบกขรณีคัคครา ในนครจัมปา สมณะ
หรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง มาสู่เขตบ้านของเรา ท่านเหล่านั้นจัดว่า
เป็นแขกของเรา และเป็นแขกอันเราควรสักการะ เคารพ นับถือ บูชา
นอบน้อม พระสมณโคดมเสด็จถึงนครจัมปา ประทับอยู่ ณ ขอบสระโบก-
ขรณีคัคครา ในนครจัมปา พระองค์ทรงเป็นแขกของพวกเรา และเป็นแขก
ที่เราควรสักการะเคารพนับถือ บูชา นอบน้อม เพราะเหตุฉะนี้แหละ พระ
องค์จึงไม่ควรเสด็จมาหาเรา ที่ถูก เราต่างหากควรจะไปเฝ้าพระองค์ ข้าพเจ้า