เมนู

มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้
เกิดด้วยสมุฏฐาน 2 (เหมือนเอฬกโลมสิกขาบท) . . .
โภชนวรรค ที่ 4 จบ

หัวข้อประจำวรรค


[103] อาหารในโรงทาน 1 ฉันเป็นหมู่ 1 โภชนะทีหลัง 1 เต็ม 2
บาตร 1 ห้ามภัตร 1 เวลาวิกาล 1 ของเคี้ยว 1 รับประเคนไว้ค้างคืน 1
โภชนะประณีต 1 อาหารที่เขาไม่ได้ให้ล่วงช่องปาก 1.

คำถามและคำตอบอเจลกวรรค ที่ 5


[104] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ให้ของเคี้ยวก็ดี
ของฉันก็ดี แก่อเจลกก็ดี แก่ปริพาชกก็ดี แก่ปริพาชิกาก็ดี ด้วยมือของตน
ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครเวสาลี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระอานนท์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอานนท์เข้าใจว่า ขนมชิ้นหนึ่ง ได้ให้ขนม
2 ชิ้น แก่ปริพาชิกานางหนึ่ง.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 2 (เหมือนเอฬกโลมสิกขาบท). . .

[105] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ชวนภิกษุว่า
มาเถิด คุณ เราจักเข้าไปสู่บ้านหรือสู่นิคม เพื่อบิณฑบาตด้วยกัน แล้วให้
เขาถวายก็ดี ไม่ให้ถวายก็ดีแก่เธอ แล้วส่งกลับไปเสีย ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร ชวนภิกษุว่า มาเถิด
คุณ เราจักเข้าไปสู่บ้านเพื่อบิณฑบาตด้วยกัน ไม่ให้เขาถวายแก่เธอ แล้วส่ง
กลับไป.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 3. . .
[106] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้สำเร็จการนั่ง
แทรกแซงในสโภชนสกุล ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร สำเร็จการนั่งแทรกแซง
ในสโภชนสกุล.

มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา. . .
[107] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้สำเร็จการนั่งใน
ที่ลับ คือ ในอาสนะกำบัง กับมาตุคาม ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร สำเร็จการนั่งในที่ลับ
คือ ในอาสนะกำบัง กับมาตุคาม.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน
อันหนึ่ง คือ เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา. . .
[108] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้เดียว สำเร็จ
การนั่งในที่ลับกับมาตุคามผู้เดียว ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร ผู้เดียวสำเร็จการนั่ง
ในที่ลับกับมาตุคามผู้เดียว.

มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา. . .
[109] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รับนิมนต์แล้ว
มีภัตรอยู่ ไม่บอกลาภิกษุซึ่งมีอยู่ ถึงความเป็นผู้เที่ยวไปในสกุลทั้งหลาย ก่อน
เวลาฉันก็ดี หลังเวลาฉันก็ดี ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครราชคฤห์
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร รับนิมนต์แล้ว มีภัตร
อยู่ ถึงความเป็นผู้เที่ยวไปในสกุลทั้งหลาย ก่อนเวลาฉัน หลังเวลาฉัน.
มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 4 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้
เกิดด้วยสมุฏฐาน 2 (เหมือนกฐินสิกขาบท) . . .
[110] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ขอเภสัชยิ่งกว่า
กำหนดนั้น ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ สักกชนบท
ถ. ทรงปรารภใคร
ท. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร

ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ อันมหานามศากยะกล่าวว่า วันนี้
ขอท่านจงรอ ก็มิได้รอ.
มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้
เกิดด้วยสมุฏฐาน 6. . .
[111] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ไปเพื่อดูกองทัพ
ซึ่งยกออกไป ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ ได้ไปเพื่อจะดูกองทัพซึ่งยกออกไป.
มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้
เกิดด้วยสมุฏฐาน 2 (เหมือนเอฬกโลมสิกขาบท). . .
[112] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้อยู่ในกองทัพ
เกินกว่า 3 คืน ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์อยู่ในกองทัพเกินกว่า 3 คืน.

มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 2 (เหมือนเอฬกโลมสิกขาบท). . .
[113] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ไปสู่สนามรบ
ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ได้ไปสู่สนามรบ.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 2 (เหมือนเอฬกโลมสิกขาบท). . .
อเจลกวรรรค ที่ 5 จบ

หัวข้อประจำวรรค


[114] ให้แก่อเจลก 1 ส่งภิกษุกลับไป 1 สโภชนสกุล 1 นั่งใน
ที่ลับ 2 สิกขาบท ภิกษุมีอยู่ 1 เภสัช 1 ดูกองทัพที่ยกออกไป 1 อยู่เกิน
3 ราตรี 1 ไปสู่สนามรบ 1.

คำถามและคำตอบสุราเมรยวรรค ที่ 6


[115] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ ในเพราะดื่มสุราและเมรัย
ณ ที่ไหน