เมนู

ความที่สิกขาบทมีวัตถุเป็นสภาคกัน มีอยู่ ความที่สิกขาบทมีอาบัติ
เป็นสภาคกัน ไม่มี
ความที่สิกขาบทมีอาบัติเป็นสภาคกัน มีอยู่ ความที่สิกขาบทมีวัตถุ
เป็นสภาคกัน ไม่มี
ความที่สิกขาบทมีวัตถุเป็นสภาคกัน และมีอาบัติเป็นสภาคกัน มีอยู่
ความที่สิกขาบทมีวัตถุเป็นสภาคกัน และมีอาบัติเป็นสภาคกัน ไม่มีเลย.

ว่าด้วยพระอุปัชฌาย์ต้องอาบัติเป็นต้น


[971] มีอยู่ อาบัติ พระอุปัชฌาย์ต้อง สัทธิวิหาริกไม่ต้อง
มีอยู่ อาบัติ สัทธิวิหาริกต้อง พระอุปัชฌาย์ ไม่ต้อง
มีอยู่ อาบัติ พระอุปัชฌาย์และสัทธิวิหาริก ต้อง
มีอยู่ อาบัติ พระอุปัชฌาย์และสัทธิวิหาริก ไม่ต้อง
มีอยู่ อาบัติ พระอาจารย์ต้อง อันเตวาสิกไม่ต้อง
มีอยู่ อาบัติ อันเตวาสิกต้อง พระอาจารย์ไม่ต้อง
มีอยู่ อาบัติ พระอาจารย์และอันเตวาสิกต้อง
มีอยู่ อาบัติ พระอาจารย์และอันเตวาสิกไม่ต้อง.

ว่าด้วยปัจจัยแห่งการขาดพรรษาเป็นต้น


[972] การขาดพรรษาไม่ต้องอาบัติมีปัจจัย 4 คือ สงฆ์แตกกัน 1
มีพวกภิกษุประสงค์จะทำลายสงฆ์ 1 มีอันตรายแก่ชีวิต 1 มีอันตรายแก่
พรหมจรรย์ 1

วจีทุจริตมี 4 คือ พูดเท็จ 1 พูดส่อเสียด 1 พูดคำหยาบ 1 พูด
เพ้อเจ้อ 1
วจีสุจริตมี 4 คือ พูดจริง 1 พูดไม่ส่อเสียด 1 พูดคำสุภาพ 1
พูดพอประมาณ 1.

ว่าด้วยถือเอาทรัพย์เป็นต้น


[973] มีอยู่ ภิกษุถือเอาทรัพย์เอง ต้องอาบัติหนัก ใช้ผู้อื่น ต้อง
อาบัติเบา
มีอยู่ ภิกษุถือเอาทรัพย์เอง ต้องอาบัติเบา ใช้ผู้อื่น ต้องอาบัติหนัก
มีอยู่ ภิกษุถือเอาทรัพย์เองก็ดี ใช้ผู้อื่นก็ดี ต้องอาบัติหนัก
มีอยู่ ภิกษุถือเอาทรัพย์เองก็ดี ใช้ผู้อื่นก็ดี ต้องอาบัติเบา
มีอยู่ บุคคลควรอภิวาท แต่ไม่ควรลุกรับ
มีอยู่ บุคคลควรลุกรับ แต่ไม่ควรอภิวาท
มีอยู่ บุคคลควรอภิวาทและควรลุกรับ
มีอยู่ บุคคลไม่ควรอภิวาทและไม่ควรลุกรับ
มีอยู่ บุคคลควรแก่อาสนะ แต่ไม่ควรอภิวาท
มีอยู่ บุคคลควรอภิวาท แต่ไม่ควรแก่อาสนะ
มีอยู่ บุคคลควรแก่อาสนะและอภิวาท
มีอยู่ บุคคลไม่ควรแก่อาสนะและไม่ควรอภิวาท.

ว่าด้วยต้องอาบัติในกาลเป็นต้น


[974] มีอยู่ อาบัติ ภิกษุต้องในกาล ไม่ต้องในเวลาวิกาล
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุต้องในเวลาวิกาล ไม่ต้องในกาล