[651] ถามว่า ภิกษุณีผู้ประพฤติตามพระอริฏฐะผู้ถูกสงฆ์ผู้พร้อม
เพรียงกันยกวัตร ไม่สละกรรม เพราะสวดสมนุภาสน์ครบ 3 จบ ต้องอาบัติ
เท่าไร
ตอบว่า ภิกษุณีผู้ประพฤติตามพระอริฏฐะผู้ถูกสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกัน
ยกวัตร ไม่สละกรรมเพราะสวดสมนุภาสน์ครบ 3 จบ ต้องอาบัติ 3 คือ จบ
ญัตติเป็นทุกกฏ 1 จบกรรมวาจา 2 ครั้ง เป็นถุลลัจจัย 1 จบกรรมวาจาครั้ง
สุด ต้องอาบัติปาราชิก 1
ภิกษุณีผู้พระพฤติตามพระอริฏฐะ ผู้ถูกสงฆ์พร้อมเพรียงกันยกวัตร
ไม่สละกรรมเพราะสวดสมนุภาสน์ครบ 3 จบ ต้องอาบัติ 3 เหล่านี้.
[652] ถามว่า ภิกษุณีผู้ยังวัตถุที่^* 8 ให้บริบูรณ์ ต้องอาบัติเท่าไร
ตอบว่า ภิกษุณีผู้ยังวัตถุที่ 8 ให้บริบูรณ์ ต้องอาบัติ 3 คือ อันบุรุษ
กล่าวว่า จงเดินไปยังห้องชื่อนี้ แล้วเดินไป ต้องอาบัติทุกกฏ 1 พอล่วงเข้า
หัตถบาสของบุรุษ ต้องอาบัติถุลลัจจัย 1 ยังวัตถุที่ 8 ให้บริบูรณ์ ต้องอาบัติ
ปาราชิก 1
ภิกษุณียังวัตถุที่ 8 ให้บริบูรณ์ ต้องอาบัติ 3 เหล่านี้.
ปาราชิก จบ

สังฆาทิเสสกัณฑ์

คำถามและคำตอบอาบัติสังฆาทิเสส

[653] ภิกษุณีผู้กล่าวให้ร้าย ก่อคดีขึ้น ต้องอาบัติ 3 คือ บอกแก่
คน ๆ เดียว ต้องอาบัติทุกกฏ 1 บอกแก่คนที่สอง ต้องอาบัติถุลลัจจัย 1 คดี
ถึงที่สุด ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 1.
^* วัตถุที่ 8 คือ ภิกษุณี ทอดกายเพื่อประโยชน์แก่บุรุษนั้น เพื่อประสงค์จะเสพอสัทธรรม ดูข้อ
26 พระวินัยปิฎก เล่ม 3 หน้า 30

[654] ภิกษุณีรับหญิงโจรให้บวช ต้องอาบัติ 3 คือ จบญัตติเป็น
ทุกกฏ 1 จบกรรมวาจาสองครั้ง เป็นถุลลัจจัย 1 จบกรรมวาจาครั้งสุด ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส 1.
[655] ภิกษุณีไปสู่ละแวกบ้านแต่ผู้เดียว ต้องอาบัติ 3 คือเดินไป
ต้องอาบัติทุกกฏ 1 เดินล่วงเขตล้อมไป 1 ก้าว ต้องอาบัติถุลลัจจัย 1 เดินล่วง
เขตล้อมไป 2 ก้าว ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 1.
[656] ภิกษุณีไม่บอกกล่าวการกสงฆ์ ไม่รู้ฉันทะของคณะ รับ
ภิกษุณีผู้ซึ่งสงฆ์พร้อมเพรียงกันยกเสียจากหมู่แล้ว ตามธรรม ตามวินัย ตาม
สัตถุศาสน์ให้เข้าหมู่ ต้องอาบัติ 3 คือ จบญัตติ เป็นทุกกฏ 1 จบกรรมวาจา
สองครั้ง เป็นถุลลัจจัย 1 จบกรรมวาจาครั้งสุด ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 1.
[657] ภิกษุณีมีความพอใจ รับของเคี้ยวก็ตาม ของฉันก็ตาม จาก
มือของบุรุษบุคคลผู้มีความพอใจ ด้วยมือของตนแล้วฉัน ต้องอาบัติ 3 คือ
รับไว้ด้วยตั้งใจจักเคี้ยว จักฉัน ต้องอาบัติถุลลัจจัย 1 ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ทุก ๆ คำกลืน 1 รับน้ำและไม้ชำระฟันต้องอาบัติทุกกฏ 1.
[658] ภิกษุณีกล่าวว่า แม่เจ้า บุรุษบุคคลนั้น มีความพอใจก็ตาม
ไม่มีความพอใจก็ตาม จักทำอะไรแก่แม่เจ้าได้ เพราะแม่เจ้าไม่มีความพอใจ
นิมนต์เถิด เจ้าข้า บุรุษบุคคลนั้นจะถวายสิ่งใด เป็นของเคี้ยวก็ตาม ของฉัน
ก็ตามแก่แม่เจ้า ขอแม่เจ้าโปรดรับประเคนของสิ่งนั้นด้วยมือของตน แล้วเคี้ยว
หรือฉันเถิด ดังนี้แล้วส่งไป ต้องอาบัติ 3 คือ รับประเคนด้วยตั้งใจจักเคี้ยว
จักฉันตามคำของภิกษุณีนั้น ต้องอาบัติทุกกฏ 1 ต้องอาบัติถุลลัจจัยทุก ๆ คำ
กลืน 1 ฉันเสร็จ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 1.

[659] ภิกษุณีผู้โกรธ ไม่สละกรรมเพราะสวดสมนุภาสน์ครบ 3
จบ ต้องอาบัติ 3 คือ จบญัตติ เป็นทุกกฏ 1 จบกรรมวาจาสองครั้ง เป็น
ถุลลัจจัย 1 จบกรรมวาจาครั้งสุด ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 1.
[660] ภิกษุณีผู้ถูกตัดสินให้แพ้ในอธิกรณ์เรื่องหนึ่ง โกรธไม่สละ
กรรมเพราะสวดสมนุภาสน์ครบ 3 จบ ต้องอาบัติ 3 คือ จบญัตติเป็นทุกกฏ
1 จบกรรมวาจาสองครั้ง เป็นถุลลัจจัย 1 จบกรรมวาจาครั้งสุด ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส 1.
[661] ภิกษุณีหลายรูปผู้คลุกคลีกันอยู่ ไม่สละกรรมเพราะสวด
สมนุภาสน์ครบ 3 จบ ต้องอาบัติ 3 คือ จบญัตติ เป็นทุกกฏ 1 จบกรรม
วาจาสองครั้ง เป็นถุลลัจจัย 1 จบกรรมวาจาครั้งสุด ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 1.
[662] ภิกษุณีผู้สั่งว่า แม่เจ้าทั้งหลาย พวกท่านจงอยู่คลุกคลีกันเถิด
อย่าอยู่ต่างหากกันเลย ไม่สละกรรม เพราะสวดสมนุภาสน์ครบ 3 จบ ต้อง
อาบัติ 3 คือ จบญัตติ เป็นทุกกฏ 1 จบกรรมวาจาสองครั้ง เป็นถุลลัจจัย 1
จบกรรมวาจาครั้งสุด ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 1.
สังฆาทิเสส จบ

นิสสัคคิยปาจิตติยกัณฑ์

คำถามและคำตอบอาบัติในนิสสัคคิยปาจิตตีย์

[663] ภิกษุณีทำการสั่งสมบาตร ต้องอาบัติตัวหนึ่ง คือนิสสัคคิย-
ปาจิตตีย์.