[647] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาฏิเทสนียะ แก่ภิกษุณีผู้ขอนมสม
มาฉัน ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีฉัพพัคคีย์ขอนมส้มมาฉัน.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน
4 คือ บางทีเกิดแต่กาย มิใช่วาจา มิใช่จิต 1 บางทีเกิดแต่กายกับวาจา มิใช่
จิต 1 บางทีเกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา 1 บางทีเกิดแต่กาย วาจา และจิต 1.
ปาฏิเทสนียะ 8 สิกขาบท จบ

หัวข้อประจำกัณฑ์

[648] พระพุทธเจ้าทรงแสดงปาฏิเทสนียะ 8 สิกขาบทเองคือ
ภิกษุณีขอเนยใส 1 น้ำมัน 1 น้ำผึ้ง 1 น้ำอ้อย 1 ปลา 1 เนื้อ 1 นมสด 1
นมส้ม 1
สิกขาบทเหล่าใด ที่บรรยายไว้โดยพิสดารในภิกขุวิภังค์ เพราะย่อ
สิกขาบทเหล่านั้น เป็นกัตถปัญญัติวารที่ 1 ในภิกขุนีวิภังค์ จบ.

กตาปัตติวาร ที่ 2

ปาราชิกกัณฑ์

คำถามและคำตอบอาบัติปาราชิก

[649] ถามว่า ภิกษุณีผู้กำหนัด ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกายของ
บุรุษบุคคลผู้กำหนัด ต้องอาบัติเท่าไร
ตอบว่า ภิกษุณีผู้กำหนัด ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกายของบุรุษบุคคลผู้
ผู้กำหนัด ต้องอาบัติ 3 คือ:-
ยินดีการจับต้องอวัยวะใต้รากขวัญลงมา เหนือหัวเข่าขึ้นไป ต้องอาบัติ
ปาราชิก 1
ยินดีการจับต้องอวัยวะเหนือรากขวัญขึ้นไป ใต้หัวเข่าลงมา ต้องอาบัติ
ถุลลัจจัย 1
ยินดีการจับต้องของเนื่องด้วยกาย ต้องอาบัติทุกกฏ 1
ภิกษุณีผู้กำหนัด ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกายของบุรุษบุคคลผู้กำหนัด
ต้องอาบัติ 3 เหล่านี้.
[650] ถามว่า ภิกษุณีผู้ปกปิดโทษ ปกปิดโทษไว้ ต้องอาบัติเท่าไร
ตอบว่า ภิกษุณีผู้ปกปิดโทษ ปกปิดโทษไว้ ต้องอาบัติ 3 คือรู้อยู่
ปกปิดธรรมมีโทษถึงปาราชิก ต้องอาบัติปาราชิก 1 มีความสงสัยปกปิด ต้อง
อาบัติถุลลัจจัย 1 ปกปิดอาจารวิบัติ ต้องอาบัติทุกกฏ 1
ภิกษุณีผู้ปกปิดโทษ ปกปิดโทษไว้ ต้องอาบัติ 3 เหล่านี้.