เมนู

[540] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุณีผู้ให้
จ่ายผ้าห่มบาง ราคาเกินกว่า 2 กังสะกึ่งเป็นอย่างยิ่ง ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีถุลลนันทา
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีถุลลนันทาขอผ้าโขมะกะพระเจ้าแผ่นดิน.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 6.
นิสสัคคิยปาจิตตีย์ 12 สิกขาบท จบ

หัวข้อประจำกัณฑ์


[541] บาตร 1 อธิษฐานอกาลจีวรเป็นกาลจีวร 1 แลกเปลี่ยน 1
ขอ 1 ให้จ่าย 1 ที่ถวายไว้เพื่อประโยชน์อย่างอื่น 1 เป็นของสงฆ์ 1 เป็นของ
คนหมู่มาก 1 ขอมาเอง 1 เป็นของบุคคล 1 สี่กังสะ 1 สองกังสะกึ่ง 1.

ปาจิตติยกัณฑ์


คำถามและคำตอบลสุณวรรคที่ 1


[542] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุณีผู้ฉันกระเทียม
ณ ที่ไหน

ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีถุลลนันทา
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีถุลลนันทาไม่รู้จักประมาณ ให้นำกระเทียมไป.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 2 (เหมือนเอฬกโลมสิกขาบท).
[543] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุณีให้ถอนขนในที่
แคบ ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีฉัพพัคคีย์ให้ถอนขนในที่แคบ.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 4.
[544] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ในเพราะใช้ของลับกระทบ
กัน ณ ที่ไหน

ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณี 2 รูป
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณี 2 รูป ใช้ของลับกระทบกัน .
บัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐานวันหนึ่ง (เหมือนปฐมปาราชิกสิกขาบท).
[545] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ในเพราะใช้ท่อนยางเกลี้ยง
ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีรูปหนึ่ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีรูปหนึ่งใช้ท่อนยางเกลี้ยง.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐานอันหนึ่ง (เหมือนปฐมปาราชิกสิกขาบท).
[546] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุณีผู้ใช้น้ำชำระให้
สะอาดลึกเกิน 2 ข้อองคุลีเป็นอย่างยิ่ง ณ ที่ไหน

ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ สักกชนบท
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีรูปหนึ่ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีรูปหนึ่งใช้น้ำชำระให้สะอาดลึกเกินไป.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐานอันหนึ่ง (เหมือนปฐมปาราชิกสิกขาบท).
[547] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุณีผู้บำรุงภิกษุผู้
กำลังฉันด้วยน้ำดื่ม หรือด้วยการพัด ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีรูปหนึ่ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีรูปหนึ่งบำรุงภิกษุผู้กำลังฉัน ด้วยน้ำดื่ม และ
ด้วยการพัด.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 2 (เหมือนเอฬกโลมสิกขาบท).
[548 ] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุณีผู้ขอข้าวเปลือก
สดมาฉัน ณ ที่ไหน

ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีหลายรูป
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีหลายรูปขอข้าวเปลือกสดมาฉัน.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 4.
[549] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุณีผู้เทอุจจาระก็ดี
ปัสสาวะก็ดี น้ำลายก็ดี หยากเยื่อก็ดี ของเป็นเดนก็ดี ที่ภายนอกฝา ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีรูปหนึ่ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีรูปหนึ่งเทอุจจาระบ้าง ปัสสาวะบ้าง น้ำลาย
บ้าง หยากเยื่อบ้าง ของเป็นเดนบ้าง ที่ภายนอกฝา.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 6.
[550] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุณีผู้เทอุจจาระก็ดี
ปัสสาวะก็ดี น้ำลายก็ดี หยากเยื่อก็ดี ของเป็นเดนก็ดี บนของเขียวสด ณ ที่ไหน

ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีหลายรูป
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีหลายรูปเทอุจจาระบ้าง ปัสสาวะบ้าง น้ำลาย
บ้าง หยากเยื่อบ้าง ของเป็นเดนบ้าง บนของเขียวสด.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 6.
[551] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ไปดูฟ้อนรำก็ดี
ขับร้องก็ดี ประโคมก็ดี ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครราชคฤห์
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีฉัพพัคคีย์ไปดูฟ้อนรำบ้าง ขับร้องบ้าง
ประโคมบ้าง.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 2 (เหมือนเอพกโลมสิกขาบท).
ลสุณวรรคที่ 1 จบ

คำถามและคำตอบรัตตันธการวรรคที่ 2


[552] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุณีผู้ยืนร่วมกับบุรุษ
ในเวลาค่ำคืนไม่มีประทีปส่องหนึ่งต่อหนึ่ง ณ ที่ไหน.
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีรูปหนึ่ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีรูปหนึ่ง ยืนร่วมกับบุรุษในเวลาค่ำคืนที่ไม่มี
ประทีปส่อง หนึ่งต่อหนึ่ง.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 2 (เหมือนเถยยสัตถกสิกขาบท).
[553] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุณีผู้ยืนร่วมกับบุรุษ
ในโอกาสอันกำบัง หนึ่งต่อหนึ่ง ณ ที่ไหน.
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุณีรูปหนึ่ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุณีรูปหนึ่งยืนร่วมกับบุรุษ ในโอกาสอันกำบัง
หนึ่งต่อหนึ่ง.