เมนู

วินัยฏฐกถาวสานคาถา


พระโลกนาถผู้ชำนะ เมื่อจะทรงแนะนำบุคคลผู้
ควรแนะนำ ได้ตรัสวินัยปิฎกใด ซึ่งแสดงจำแนกโดย
อุถโตวิภังค์ ขันธกะ และบริวาร, อรรถกถาชื่อสมันต-
ปาสาทิกาแห่งวินัยปิฎกนั้น จบบริบูรณ์แล้ว โดยคันถะ
ประมาณ 27,000 ถ้วน ด้วยลำดับแห่งคำเพียงเท่านี้แล.
ในคำที่ว่า อรรถกถาวินัย ปลูกความเลื่อมใส
รอบด้านนั้น มีคำอธิบายในข้อที่อรรถกถาชื่อสมันต
ปาสาทิกา เป็นคัมภีร์ปลูกความเลื่อมใสรอบด้าน ดังนี้ :-
ในสมันตปาสาทิกานี้ ไม่ปรากฏคำน้อยหนึ่งที่ไม่
น่าเลื่อมใสแก่วิญญู ชนทั้งหลายผู้พิจารณาอยู่ โดยสืบ
ลำดับแห่งอาจารย์ โดยแสดงประเภทแห่งนิทานและ
วัตถุ โดยเว้นลัทธิของฝ่ายอื่น โดยความหมดจดแห่งลัทธิ
ของตน โดยชำระพยัญชนะให้หมดจด โดยเนื้อความ
เฉพาะบท โดยลำดับแห่งบาลีและโยชนา โดยวินิจฉัย
ในสิกขาบท และโดยแสดงประเภทแห่งนัยที่สมแก่
วิภังค์ เพราะฉะนั้นอรรถกถาแห่งวินัย ซึ่งพระโลกนาถ
ผู้ทรงอนุเคราะห์สัตว์โลกผู้ฉลาดในการฝึกชนที่ควร
แนะนำ ได้ตรัสไว้แล้วอย่างนั้นนี้ จึงบ่งนามว่า
" สมันตปาสาทิกา" แล.

ข้าพเจ้าเมื่ออยู่ที่ปราสาท อันห้อม-
ล้อมด้วยกำแพงทองสะพรั่งด้วยต้นไม้มี
ร่มเงาอันเย็น มีสระน้ำพร้อมมูล เป็นที่
รื่นรมย์ใจ ซึ่งอุบายสกผู้ปรากฏนามว่า
มหานิคมสามี ผู้เกิดในสกุลสูงเลื่อมใสใน
พระรัตนตรัย ด้วยศรัทธาไม่อากูล บำรุง
พระสงฆ์ทุกเมื่อได้สร้างไว้ใกล้เรือนเป็นที่
บำเพ็ญเพียรอันสูงลิ่ว ซึงภิกษุสงฆ์ผู้มีจาริต-
สีลอันสะอาดอาศัยอยู่ ที่ตั้งอยู่ทางด้านใต้
แห่งมหาวิหาร อันประดับด้วยต้นมหาโพธิ
ของพระศาสดา ซึ่งประดิษฐานอยู่บนภูมิภาค
ในอุทยานมีนามว่ามหาเมฆวัน (ข้าพเจ้า)
ได้ฟังอรรถกถาซึ่งพระเถระในเกาะสีหล ได้
รจนาไว้ทั้ง 3 คัมภีร์ เหล่านี้คือ มหา-
อรรถกถา มหาปัจจรี และกุรุนที ใน
สำนักพระเถระผู้ปรากฏโดยนามว่า "พุทธ
มิตต์" ซึ่งเป็นนักปราชญ์ รู้ทั่วถึงพระวินัย
มีชื่อเสียง มาคำนึงพระพุทธสิริเถระผู้มี
ศีลและอาจาระอันสะอาด จึงได้เริ่มรจนา
อรรถกถาวินัยอันใด ซึ่งให้สำเร็จประโยชน์
อรรถกถาวินัยนี้ ข้าพเจ้าได้เริ่มรจนา ใน
ปีที่ 20 ถ้วน ซึ่งเป็นปีที่เกษมมีชัย ของ
พระเจ้าสิริบาล ผู้เป็นที่อาศัยอยู่แห่งสิริ มี

พระยศ ทรงปกครองลังกาทวีปทั้งสิ้น ให้
ปราศจากเสี้ยนหนาม สำเร็จเรียบร้อยเมื่อ
ย่างเข้าปีที่ 21
อรรถกถาวินัยนี้ เข้าถึงความสำเร็จ
ได้ ในโลกซึ่งคับคั่งด้วยอุปัทวะ โดยกาล
เพียงปีเดียว โดยปราศจากอุปัทวะฉันใด,
ความริเริ่มทั้งปวง ที่อิงอาศัยธรรม ห่าง
อุปัทวะของสัตว์โลกทั้งมวล จงพลันสำเร็จ
ฉันนั้นเถิด.
อนึ่ง บุญใด ซึ่งข้าพเจ้าผู้มีความ
นับถือพระสัทธรรมมากรจนาอรรถกถานี้
เพื่อให้พระธรรมตั้งอยู่ยั่งยืน ได้สร้างสม
แล้ว, ด้วยอานุภาพแห่งบุญทั้งมวลนั้น ขอ
สัตว์ทั้งปวง จงเป็นผู้เสวยรสแห่งพระ-
สัทธรรมของพระธรรมราชาเถิด, ขอพระ
สัทธรรม จงตั้งอยู่ตลอดกาลนานเถิด, ขอ
ฝนจงตกตามฤดูกาล ยังประชาให้ชุ่มชื่น
ตลอดกาลนานเถิด, ขอพระราชา จง
ปกครองแผ่นดินโดยธรรมเถิด ฉะนี้แล.
อรรถกถาวินัย ชื่อสมันตปาสาทิกา อันพระเถระ
ผู้อันครูทั้งหลายขนานนามว่า "พุทธโฆสะ" ผู้ประดับ
ด้วยศรัทธาปัญญาและความเพียรอันบริสุทธิ์ยิ่ง ผู้รุ่งเรือง

ด้วยกองคุณมีศีลอาจาระ ความซื่อตรง และความ
อ่อนโยนเป็นต้น ผู้สามารถหยั่งลงสู่ชัฏ คือ สัทธิของตน
และลัทธิฝ่ายอื่น ผู้ประกอบด้วยความเฉียบแหลมด้วย
ปัญญา ผู้มีอานุภาพแห่งญาณไม่ติดขัด ในสัตถุศาสนา
กับทั้งอรรถกถาอันต่างด้วยปริยัติ คือ พระไตรปิฎก
ผู้รู้ไวยากรณ์มาก เป็นมหากวีนักพูดประเสริฐ ทุกคำ
ที่ควรพูดในกาลที่ควร1 ผู้ประกอบด้วยถ้อยคำอันสละ
สลวยไพเราะอย่างยิ่ง ซึ่งเปล่งออกโดยง่าย ซึ่งให้เกิด
แก่กรณสมบัติ ผู้เป็นเครื่องประดับวงศ์ของพระเถระ
ทั้งหลาย ผู้อยู่ในมหาวิหาร ผู้ยังเถรวงศ์ให้สว่าง มี
ปัญญามั่นคงดีในอุตริมนุสธรรม อันประดับด้วยคุณ มี
อภิญญา 6 และปฏิสัมภิทาเป็นต้นเป็นประเภท มีปฏิ-
สัมภิทาญาณอันแตกฉานเป็นบริวารผู้มีปัญญาไพบูล
หมดจดดี ได้รจนาแล้วนี้ จบแล้ว.
แม้พระนามว่า "พุทโธ" ของพระ-
โลกเชษฐ์ ผู้มีพระหฤทัยสะอาดคงที่ แสวง
หาคุณใหญ่หลวง ยังเป็นไปอยู่ ในโลก
ในโลก แสดงนัย เพื่อความหมดจดแห่งศีล
ในโลก แสดงนัย เพื่อความหมดจดแห่งศีล
แก่กุลบุตรทั้งหลาย ผู้แสวงหาพระนิพพาน
เป็นที่หลีกออกจากโลกตราบนั้น เทอญ.

อรรถกถาวินัย จบแล้ว
1. พูดทั้งผูกทั้งแก้ (?)