เมนู

พระวินัยปิฎก


เล่ม 8


ปริวาร


ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


มหาวิภังค์ 16 มหาวาร


กัตถปัญญัติวาร ที่ 1


[1] พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธ
เจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบทที่ 1 ณ ที่ไหน ทรงปรารภใคร
เพราะเรื่องอะไร ในปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น มีบัญญัติ อนุบัญญัติ อนุ-
ปันนบัญญัติ สัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติ สาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ
เอกโตบัญญัติ อุภโตบัญญัติ หรือ บรรดาปาติโมกขุทเทศ 5 ปาราชิกสิกขาบท
ที่ 1 นั้น จัดเข้าในอุเทศไหน นับเนื่องในอุเทศไหน มาสู่อุเทศโดยอุเทศที่
เท่าไร บรรดาวิบัติ 4 เป็นวิบัติอย่างไหน บรรดาอาบัติ 7 กอง เป็นอาบัติ
กองไหน บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 อย่าง เกิดขึ้นด้วยสมุฏฐานเท่าไร
บรรดาอธิกรณ์ 4 เป็นอธิกรณ์อย่างไหน บรรดาสมถะ 7 ย่อมระงับด้วยสมถะ
เท่าไร ในปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น อะไรเป็นวินัย ในปาราชิกสิกขาบทที่ 1
นั้น อะไรเป็นอภิวินัย ในปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น อะไรเป็นปาติโมกข์
ในปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น อะไรเป็นอธิปาติโมกข์ อะไรเป็นวิบัติ อะไร

เป็นสมบัติ อะไรเป็นข้อปฏิบัติ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบท
ที่ 1 เพราะทรงอาศัยอำนาจประโยชน์เท่าไร พวกไหนศึกษา พวกไหนมีสิกขา
อันศึกษาแล้ว ปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น ตั้งอยู่ในใคร พวกไหนย่อมทรงไว้
เป็นถ้อยคำของใคร ใครนำมา.

ปาราชิกกัณฑ์


คำถามและคำตอบปาราชิกสิกขาบทที่ 1


[2] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมา-
สัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบทที่ 1 ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครเวสาลี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระสุทิน กลันทบุตร
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระสุทิน กลันทบุตร เสพเมถุนธรรมในปุราณ-
ทุติยิกา
ถ. ในปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น มีบัญญัติ อนุบัญญัติ อนุปันน-
บัญญัติ หรือ
ต. มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 2 อนุปันนบัญญัติ ไม่มี ในปาราชิก-
สิกขาบทที่ 1 นั้น
ถ. มีสัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติ หรือ
ต. มีแต่สัพพัตถบัญญัติ
ถ. มีสาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ หรือ

ต. มีแต่สาธารณบัญญัติ
ถ. มีเอกโตบัญญัติ อุภโตบัญญัติ หรือ
ต. มีแต่อุภโตบัญญัติ
ถ. บรรดาปาติโมกขุทเทศ 5 ปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น จัดเข้าใน
อุเทศไหน นับเนื่องในอุเทศไหน
ต. จัดเข้าในนิทาน นับเนื่องในนิทาน
ถ. มาสู่อุเทศโดยอุเทศที่เท่าไร
ต. มาสู่อุเทศโดยอุเทศที่ 2
ถ. บรรดาวิบัติ 4 เป็นวิบัติอย่างไหน
ต. เป็นศีลวิบัติ
ถ. บรรดาอาบัติ 7 กอง เป็นอาบัติกองไหน
ต. เป็นอาบัติกองปาราชิก
ถ. บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 อย่าง ปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น
เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ต. เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา
ถ. บรรดาอธิกรณ์ 4 เป็นอธิกรณ์อะไร
ต. เป็นอาปัตตาธิกรณ์
ถ. บรรดาสมถะ 7 ระงับด้วยสมถะเท่าไร
ต. ระงับด้วยสมถะ 2 อย่าง คือ สัมมุขาวินัย 1 ปฏิญญาตกรณะ 1
ถ. ในปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น อะไรเป็นวินัย ในปาราชิกสิกขาบท
ที่ 1 นั้น อะไรเป็นอภิวินัย

ต. พระบัญญัติเป็นวินัย การจำแนกเป็นอภิวินัย
ถ. ในปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น อะไรเป็นปาติโมกข์ ในปาราชิก-
สิกขาบทที่ 1 นั้น อะไรเป็นอธิปาติโมกข์
ต. พระบัญญัติเป็นปาติโมกข์ การจำแนกเป็นอธิปาติโมกข์
ถ. อะไรเป็นวิบัติ
ต. ความไม่สังวรเป็นวิบัติ
ถ. อะไรเป็นสมบัติ
ต. ความสังวรเป็นสมบัติ
ถ. อะไรเป็นข้อปฏิบัติ
ต. ข้อที่ภิกษุสมาทานอาปาณโกฏิกศีลตลอดชีวิตว่า จักไม่ทำกรรม
เห็นปานนี้ แล้วศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย เป็นข้อปฏิบัติ
ถ. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบทที่ 1 เพราะทรง
อาศัยอำนาจประโยชน์เท่าไร
ต. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบทที่ 1 เพราะทรง
อาศัยอำนาจประโยชน์ 10 ประการ คือ เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ 1 เพื่อ
ความสำราญแห่งสงฆ์ 1 เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก 1 เพื่อยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มี
ศีลเป็นที่รัก 1 เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิดในปัจจุบัน 1 เพื่อกำจัดอาสวะ
อันจักบังเกิดในอนาคต 1 เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส เพื่อ
ความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว 1 เพื่อความดำรงมั่นแห่งพระสัทธรรม
1 เพื่ออนุเคราะห์พระวินัย 1
ถ. พวกไหนศึกษา

ต. พระเสกขะและกัลยาณปุถุชนศึกษา
ถ. พวกไหนมีสิกขาอันศึกษาแล้ว
ต. พระอรหันต์มีสิกขาอันศึกษาแล้ว
ถ. ปาราชิกสิกขาบทที่ 1 นั้น ตั้งอยู่ในใคร
ต. ตั้งอยู่ในสิกขากามบุคคล
ถ. พวกไหนย่อมทรงไว้
ต. ปาราชิกสิกขาบทที่ 1 ย่อมเป็นไปแก่พระเถระพวกใด พระเถระ
พวกนั้นย่อมทรงไว้
ถ. เป็นถ้อยคำของใคร
ต. เป็นพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถ. ใครนำมา
ต. พระเถระทั้งหลายนำสืบ ๆ กันมา.

รายนามพระเถระ


[3] พระเถระเหล่านี้ คือ พระอุบาลี
พระทาสกะ พระโสณถะ พระสิคควะ รวม
เป็นห้าทั้งพระโมคคัลลีบุตร นำพระวินัยมา
ในทวีปชื่อว่าชมพู อันมีสิริ แต่นั้น พระ-
เถระผู้ประเสริฐมีปัญญามากเหล่านี้ คือ พระ
มหินทะ 1 พระอิฏฏิยะ 1 พระอุตติยะ 1
พระสัมพละ 1 พระเถระชื่อภัททะผู้เป็น
บัณฑิต 1 มาในเกาะสิงหฬนี้ แต่ชมพูทวีป

พวกท่านสอน พระวินัยปิฎกในเกาะตาม-
พปัณณิ สอนนิกาย 5 และปกรณ์ 7 แล้ว
ภายหลังพระอริฏฐะผู้มีปัญญา พระติสสทัต-
ตะผู้ฉลาด พระกาฬสุมนะผู้องอาจ พระ-
เถระมีชื่อว่าทีฆะ พระทีฆสุมนะผู้บัณฑิต
ต่อมาอีก พระกาฬสุมนะ พระนาคเถระ
พระพุทธรักขิต พระติสสเถระผู้มีปัญญา
พระเทวเถระผู้ฉลาด ต่อมาอีก พระสุมนะ
ผู้มีปัญญาและเชี่ยวชาญในพระวินัย พระ-
จูฬนาค ผู้พหูสูต ดุจช้างซับมัน พระเถระ
ชื่อธัมมปาลิตะ อันสาธุชนบูชาแล้วในโรหน
ชนบท ศิษย์ของพระธรรมปาลิตะนั้น มี
ปัญญามาก ชื่อพระเขมะ ทรงจำพระไตร-
ปิฎกรุ่งเรืองอยู่ในเกาะ ด้วยปัญญา ดุจ
พระจันทร์ พระอุปติสสะผู้มีปัญญา พระ-
ปุสสะเทวะผู้มหากถึก ต่อมาอีก พระสุมนะ
ผู้มีปัญญา พระเถระชื่อบุปผะ ผู้พหูสูต พระ
มหาสีวะผู้มหากถึก ฉลาดในพระปิฎกทั้ง-
ปวง ต่อมาอีก พระอุบาลี ผู้มีปัญญา เชี่ยว
ชาญในพระวินัย พระมหานาค ผู้มีปัญญา
มาก ฉลาดในวงศ์พระสัทธรรม ต่อมาอีก