เมนู

ผ้าบังสุกุล


[44] ก็โดยสมัยนั้น ผ้าบังสุกุลบังเกิดแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงพระ
องค์ได้ทรงพระดำริว่า เราจะพึงซักผ้าบังสุกุล ณ ที่ไหนหนอ ลำดับนั้น ท้าว
สักกะจอมทวยเทพทรงทราบพระดำริในพระทัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยพระ-
ทัยของพระองค์ จึงขุดสระโบกขรณีด้วยพระหัตถ์ แล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าว่า พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดซักผ้าบังสุกุลในสระนี้ ที
นั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงพระดำริว่า เราจะพึงขยำผ้าบังสุกุล ณ ที่ไหนหนอ
ลำดับนั้น ท้าวสักกะจอมทวยเทพทรงทราบพระดำริในพระทัยของพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ด้วยพระทัยของพระองค์แล้ว ได้ยกศิลาแผ่นใหญ่มาวางพลางทูลว่า พระ-
พุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดทรงขยำผ้าบังสกุลบนศิลาแผ่นนี้ ลำดับ
นั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงพระดำริว่า เราจะพึงพาดผ้าบังสกุลไว้ ณ ที่ไหน
หนอ ครั้งนั้น เทพดาที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นกุ่มบกทราบพระดำริในพระหทัยของ
พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยใจของตน จึงน้อมกิ่งกุ่มลงมาพลางกราบทูลว่า พระพุทธ-
เจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดทรงพาดผ้าบังสุกุลไว้ ที่กิ่งกุ่มนี้ครั้งนั้น พระ
ผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงพระดำริว่า เราจะผึ่งผ้าบังสุกุล ณ ที่ไหนหนอ ครั้งนั้น
ท้าวสักกะจอมทวยเทพทรงทราบพระดำริในพระหทัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ด้วยพระทัยของพระองค์แล้ว ได้ยกแผ่นศิลาใหญ่มาวางไว้พลางกราบทูลว่า
พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดทรงผึ่งผ้าบังสุกุลบนศิลาแผ่นนี้.
หลังจากนั้น ชฎิลอุรุเวลกัสสปเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยล่วง
ราตรีนั้น ครั้นถึงแล้วได้ทูลคำนี้ ต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ถึงเวลาแล้ว มหา-
สมณะ ภัตตาหารเสร็จแล้ว เพราะเหตุไรหนอ มหาสมณะ เมื่อก่อนสระนี้
ไม่มีที่นี้ เดี่ยวนี้มีสระอยู่ที่นี้ เมื่อก่อนศิลาเหล่านี้ไม่มีวางอยู่ ใครยกศิลาเหล่า
มาวางไว้ เมื่อก่อนกิ่งกุ่มบกต้นนี้ไม่น้อมลงเดี๋ยวนี้ กิ่งนั้นน้อมลง.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนกัสสป ผ้าบังสุกุลบังเกิดแก่เรา
ณ ที่นี้เรานั้นได้ดำริว่า จะพึงซักผ้าบังสุกุล ณ ที่ไหนหนอ ครั้งนั้น ท้าว
สักกะจอมทวยเทพทรงทราบดำริในจิตของเราด้วยพระทัยของพระองค์แล้ว จึง
ขุดสระโบกขรณีด้วยพระหัตถ์ แล้วตรัสบอกแก่เราว่า พระพุทธเจ้าข้า ขอ
พระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดทรงซักผ้าบังสุกุลในสระนี้ สระนี้อันผู้มีใช่มนุษย์ได้ขุด
แล้วด้วยมือ ดูก่อนกัสสป เรานั้นได้ดำริว่า จะพึงขยำผ้าบังสกุล ณ ที่ไหนหนอ
ครั้งนั้น ท้าวสักกะจอมทวยเทพทราบความดำริในจิตของเราด้วยพระทัยของ
พระองค์แล้ว ได้ทรงยกศิลาแผ่นใหญ่มาวางไว้ โดยทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า
ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดทรงขยำผ้าบังสุกุลบนศิลาแผ่นนี้อันผู้มีใช่มนุษย์ได้
ยกมาวางไว้ ดูก่อนกัสสป เรานั้นได้ดำริว่า จะพึงพาดผ้าบังสุกุล ณ ที่ใหนหนอ
ครั้งนั้น เทพดาที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นกุ่มบก ทราบความดำริในจิตของเราด้วยใจ
ของตนแล้ว จึงน้อมกิ่งกุ่มลงมาโดยทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มี
พระภาคเจ้าโปรดทรงพาดผ้าบังสุกุลไว้บนกิ่งกุ่มนี้ ต้นกุ่มบกนี้นั้นประหนึ่งจะ
กราบทูลว่า ขอพระองค์จงทรงนำพระหัตถ์มาแล้วน้อมลง ดูก่อนกัสสป เรา
นั้นได้ดำริว่า จะพึงผึ่งผ้าบังสุกุล ณ ที่ไหนหนอ ครั้งนั้นท้าวสักกะจอมทวยเทพ
ทรงทราบความดำริแห่งจิตของเราด้วยพระทัยของพระองค์แล้ว ได้ยกศิลาแผ่น
ใหญ่มาวางไว้ โดยทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดทรง
ผึ่งผ้าบังสุกุลบนศิลาแผ่นนี้ ศิลาแผ่นนี้อันผู้มีใช่มนุษย์ได้ยกมาวางไว้.
ครั้งนั้น ชฎิลอุรุเวลกัสสปได้ดำริว่า พระมหาสมณะมีฤทธิ์มาก มี
อานุภาพมากแท้ ถึงกับท้าวสักกะจอมทวยเทพได้ทำการช่วยเหลือ แต่ก็ไม่เป็น
พระอรหันต์เหมือนเราแน่.

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยภัตตาหารของชฎิลอุรุเวลกัสสป แล้ว
ประทับอยู่ในไพรสณฑ์ตำบลนั้นแล.
ผ้าบังสุกุล จบ

ปาฏิหาริย์เก็บผลหว้าเป็นต้น


[45] ครั้นล่วงราตรีนั้นไป ชฎิลอุรุเวลกัสสปเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ครั้นแล้วจึงกราบทูลภัตตกาลแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ถึงเวลาแล้ว
มหาสมณะ ภัตตาหารเสร็จแล้ว.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกัสสป ท่านไปเถิด เราจะตามไป
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงส่งชฏิลอุรุเวลกัสสปไปแล้ว ทรงเก็บผลหว้าจากต้นหว้า
ประจำชมพูทวีป แล้วเสด็จมาประทับนั่งในโรงบูชาเพลิงก่อน ชฎิลอุรุเวลกัสสพป
ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งในโรงบูชาเพลิงแล้ว ได้ทูลคำนี้ต่อพระผู้-
มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่มหาสมณะ ท่านมาทางไหน ข้าพเจ้ากลับมาก่อนท่าน
แต่ท่านยังมานั่งในโรงบูชาเพลิงก่อน.
ภ. ดูก่อนกัสสป เราส่งท่านไปแล้ว ได้เก็บผลหว้าจากต้นหว้าประจำ
ชมพูทวีป แล้วมานั่งในโรงบูชาเพลิงนี้ก่อน ดูก่อนกัสสป ต้นหว้านี้แล สมบูรณ์
ด้วยสี กลิ่น รส ถ้าท่านต้องการ เชิญบริโภคเถิด.
อุรุ. อย่าเลย มหาสมณะ ท่านนั่นแหละเก็บผลไม้นี้มา ท่านนั้น
แหละจงฉันผลไม้นี้เถิด.
ลำดับนั้น ชฎิลอุรุเวลกัสสปได้มีความดำริว่า พระมหาสมณะมีฤทธิ์
มาก มีอานุภาพมากแท้ เพราะส่งเรามาก่อนแล้ว ยังเก็บผลหว้าจากต้นหว้า