เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากภิกษุโจทก์นั้นปฏิญาณว่า ตนตามกำจัดด้วย
อาบัติถุลลัจจัยไม่มีมูล. . .ด้วยอาบัติปฏิปาจิตติยะ. . . ด้วยอาบัติปาฏิเทสนียะ . . .
ด้วยอาบัติทุกกฏ . . . ด้วยอาบัติทุพภาสิตไม่มีมูล สงฆ์พึงปรับอาบัติตามธรรม
แล้วจึงปวารณา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากภิกษุจำเลยนั้นปฏิญาณว่า ตนต้องอาบัติ
ปาราชิกสงฆ์พึงนาสนะเสีย แล้วจึงปวารณา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากภิกษุจำเลยนั้นปฏิญาณว่า ตนต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส สงฆ์พึงปรับอาบัติสังฆาทิเสส แล้วจึงปวารณา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากภิกษุจำเลยนั้นปฏิญาณว่า ตนต้องอาบัติ
ถุลลัจจัย. . .อาบัติปาจิตติยะ. . .อาบัติปาฏิเทสนียะ. . .อาบัติทุกกฏ. . .อาบัติ
ทุพภาสิต สงฆ์พึงปรับอาบัติตามธรรม แล้วปวารณาเถิด.

มีความเห็นไม่ตรงกันในอาบัติที่ต้อง


[248] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุในศาสนานี้ ต้องอาบัติถุลลัจจัย
ในวันปวารณา ภิกษุบางพวกมีความเห็นว่า ต้องอาบัติถุลลัจจัย บางพวกมี
ความเห็นว่าต้องอาบัติสังฆาทิเสส.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพวกที่มีความเห็นว่า ต้องอาบัติถุลลัจจัย
พึงนำภิกษุรูปนั้นออกไปในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ปรับอาบัติตามธรรม แล้วเข้า
ไปหาสงฆ์กล่าวอย่างนี้ว่า อาวุโสทั้งหลาย ภิกษุรูปนั้นต้องอาบัติใดแล อาบัติ
นั้น เธอทำคืนตาธรรมแล้ว ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึง
ปวารณา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้ ต้องอาบัติถุลลัจจัย ใน
วันปวารณา ภิกษุบางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติถุลลัจจัย บางพวกมีความ

เห็นว่าต้องอาบัติปาจิตทิยะ บางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติถุลลัจจัย บางพวก
มีความเห็นว่าต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ บางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติถุลลัจจัย
บางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติทุกกฏ บางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติถุลลัจ
จัย บางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติทุพภาสิต.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพวกที่มีความเห็นว่า ต้องอาบัติถุลลัจจัย
พึงนำภิกษุรูปนั้นออกไป ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ปรับอาบัติตามธรรมแล้ว
เข้าไปหาสงฆ์กล่าวอย่างนี้ว่า อาวุโสทั้งหลาย ภิกษุรูปนั้นต้องอาบัติใดแล
อาบัตินั้นเธอทำคืนตามธรรมแล้ว ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์
พึงปวารณา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้ ต้องอาบัติปาจิตติยะ. . .
ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ. . .ต้องอาบัติทุกกฦ. . .ต้องอาบัติทุพภาสิต ในวัน
ปวารณาภิกษุบางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติทุพภาสิต บางพวกมีความเห็นว่า
ต้องอาบัติสังฆทิเสส.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพวกที่มีความเห็นว่าต้องอาบัติทุพภาสิต พึง
นำภิกษุรูปนั้นออกไปในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ปรับอาบัติตามธรรมแล้ว เข้าไป
หาสงฆ์กล่าวอย่างนี้ว่า อาวุโสทั้งหลาย ภิกษุรูปนั้นต้องอาบัติใดแล อาบัตินั้น
เธอทำคืนตามธรรมแล้ว ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงปวารณา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้ ต้องอาบัติทุพภาสิตในวัน
ปวารณา ภิกษุบางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติทัพภาสิต บางพวกมีความเห็น
ว่าต้องอาบัติถุลลัจจัย บางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติทุพภาสิต บางพวกมี
ความเห็นว่าต้องอาบัติปาจิตติยะ บางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติทุพภาสิต

บางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ บางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติ
ทุพภาสิต บางพวกมีความเห็นว่าต้องอาบัติทุกกฏ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพวกที่มีความเห็นว่าต้องอาบัติทุพภาสิต
พึงนำภิกษุรูปนั้นออกไปในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ปรับอาบัติตามธรรมแล้ว เข้า
ไปหาสงฆ์กล่าวอย่างนั้นว่า อาวุโสทั้งหลาย ภิกษุรูปนั้นต้องอาบัติใดแล อาบัติ
นั้นเธอทำคืนตามธรรมแล้ว ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึง
ปวารณา.

วัตถุและบุคคลปรากฏ


[249] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุในศาสนานี้ พึงประกาศในท่าม
กลางสงฆ์ ในวันปวารณาว่า:-
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า วัตถุนี้ปรากฏ บุคคลไม่
ปรากฏ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงงดวัตถุ แล้ว
ปวารณาเถิด.

ภิกษุนั้นอันสงฆ์พึงกล่าวอย่างนี้ว่า อาวุโส พระผู้มีพระภาคเจ้าทรง
บัญญัติปวารณาไว้สำหรับภิกษุทั้งหลายผู้บริสุทธิ์ ถ้าวัตถุปรากฏ บุคคลไม่
ปรากฏ เธอจงระบุบุคคลนั้นมาเดี๋ยวนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้ พึงประกาศในท่ามกลาง
สงฆ์ในวันปวารณาว่า:-
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า บุคคลนี้ปรากฏ วัตถุไม่
ปรากฏ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงงดบุคคล แล้ว
ปวารณาเถิด.