เมนู

โพนทะนาว่า ไฉนพระฉัพพัคคีย์จำพรรษาแล้ว จึงได้เที่ยวจาริกในระหว่าง
พรรษาเล่า จึงภิกษุเหล่านั้น กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมมีกถาในเพราะเหตุเป็น
เค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับส่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุจำพรรษา ไม่อยู่ให้ตลอด 3 เดือนต้น หรือ 3 เดือนหลัง
ไม่พึงหลีกไปสู่จาริก รูปใดหลีกไป ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระฉัพพัคคีย์ไม่จำพรรษา


[208] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์ไม่ประสงค์จะจำพรรษา
ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้ารับ
สั่งห้ามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุจะไม่จำพรรษาไม่ได้ รูปใดไม่จำพรรษา
ต้องอาบัติทุกกฏ.
สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์ ไม่ประสงค์จะจำพรรษาในวัน เข้าพรรษา
แกล้งล่วงเลยอาวาสไปเสีย ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี-
พระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้ารับส่งห้ามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่
ประสงค์จะจำพรรษาในวันเช้าพรรษา ไม่พึงแกล้งล่วงเลยอาวาสไปเสีย รูปใด
ล่วงเลยไปเสีย ต้องอาบัติทุกกฏ.

เลื่อนกาลฝน


[209] ก็โดยสมัยนั้นแล พระเจ้าพิมพิสาร จอมเสนามาคธราช
มีพระราชประสงค์จะทรงเลื่อนกาลฝนออกไป จึงทรงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้ง
หลายว่า ถ้ากระไร ขอพระคุณเจ้าทั้งหลายพึงจำพรรษาในชุณหปักษ์อันจะมา
ถึง ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
รับสั่งว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้คล้อยตามพระเจ้าแผ่นดิน.