เมนู

แสดงสภาคาบัติไม่ตก


[183] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์แสดงสภาคาบัติ ภิกษุทั้ง
หลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสห้าม
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงแสดงสภาคาบัติ รูปใดแสดง
ต้องอาบัติทุกกฏ.
สมัยต่อมา ภิกษุฉัพพัคคีย์รับแสดงสภาคาบัติ ภิกษุทั้งหลายจึงกราบ
ทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงรับแสดงสภาคาบัติ รูปใดรับแสดง ต้องอาบัติทุกกฏ .

ระลึกอาบัติได้เมื่อกำลังสวดปาติโมกข์


[188] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูป 1 เมื่อกำลังสวดปาติโมกข์ ระลึก
อาบัติได้ ภิกษุนั้นจึงได้มีความปริวิตกว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า
ภิกษุมีอาบัติติดตัวไม่พึงทำอุโบสถ ก็เราเป็นผู้ต้องอาบัติแล้ว จะพึงปฏิบัติ
อย่างไรหนอ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ รับสั่งกะ
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อกำลังสวดปาติโมกข์อยู่ ภิกษุใน
ศาสนานี้ระลึกอาบัติได้ ภิกษุนั้นพึงบอกภิกษุใกล้เคียงนี้ว่า อาวุโส ผมต้อง
อาบัติมีชื่อนี้ ลุกจากที่นี้แล้วจักทำคืนอาบัตินั้น ครั้นแล้วพึงทำอุโบสถฟังปาติ
โมกข์ แต่ไม่พึงทำอันตรายแก่อุโบสถ เพราะข้อที่ระลึกอาบัติได้นั้นเป็นปัจจัย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อกำลังสวดปาติโมกข์อยู่ ภิกษุในศาสนานี้มี
ความสงสัยในอาบัติ ภิกษุนั้นพึงบอกกะภิกษุใกล้เคียงอย่างนี้ว่า แน่ะเธอ ผม
มีความสงสัยในอาบัติมีชื่อนี้ จักหมดสงสัยเมื่อใด จักทำคืนอาบัตินั้น เมื่อนั้น