เมนู

เรื่องห้ามคนลักเพศและคนเข้ารีตมิให้อุปสมบท


[126] ก็โดยสมัยนั้นแล บุตรของตระกูลเก่าแก่คนหนึ่ง เป็นสุขุมาล-
ชาติ มีหมู่ญาติที่รู้จักกันในตระกูลหมดสิ้นไป ครั้งนั้น เขาได้มีความดำริว่า
เราเป็นผู้ดี ไม่สามารถจะหาโภคทรัพย์ที่ยังหาไม่ได้ หรือไม่สามารถจะทำ
โภคทรัพย์ที่หาได้แล้วให้เจริญงอกงาม ด้วยวิธีอะไรหนอ เราจึงจะอยู่เป็นสุข
และไม่ต้องลำบาก แล้วติดได้ในทันทีนั้นว่า พวกสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร
เหล่านี้แลมีปรกติเป็นสุข มีความประพฤติเรียบร้อย ฉันอาหารที่ดี นอนใน
ห้องนอนอันมิดชิด ถ้ากระไร เราพึงจัดแจงบาตรจีวร โกนผมและหนวด
ครองผ้าย้อมฝาดเสียเองแล้วไปอารามอยู่ร่วมกับภิกษุทั้งหลาย ต่อมา เขาได้
จัดแจงบาตรจีวร โกนผมและหนวด ครองผ้าย้อมฝาดเอง แล้วไปอาราม
กราบไหว้ภิกษุทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลายถามว่า คุณมีพรรษาได้เท่าไร.
เขาย้อนถามว่า ที่ชื่อว่ามีพรรษาได้เท่าไร นั่นอะไรกัน ขอรับ.
ภิกษุทั้งหลายถามว่า อาวุโส ใครเป็นพระอุปัชฌาย์ของคุณ.
เขาย้อนถามว่า ที่ชื่อว่าพระอุปัชฌาย์ นั่นอะไรกัน ขอรับ.
ภิกษุทั้งหลายได้แจ้งเรื่องนั้นต่อท่านพระอุบาลีว่า อาวุโสอุบาลี ขอ
นิมนต์ท่านสอบสวนบรรพชิตรูปนี้ .
ครั้นเขาถูกท่านพระอุบาลีสอบสวน จึงแจ้งเรื่องนั้นให้ทราบ ท่าน
พระอุบาลีได้แจ้งให้ภิกษุทั้งหลายทราบแล้ว ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.

พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
อนุปสัมบัน คือ คนลักเพศ ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้วต้องให้
สึกเสีย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบัน คือ ผู้ไปเข้ารีตเดียรถีย์ ภิกษุไม่
พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้ว ต้องให้สึกเสีย.

อรรถกถาเถยยสังวาสกกถา


บทว่า ปุราณกุลปุตฺโต ได้แก่ บุตรของสกุลเก่า คือถึงความ
ย่อยยับโดยลำดับ.
บทว่า ขีณโกลญฺโญ มีอรรถวิเคราะห์ว่า ญาติทั้งหลายผู้รู้จักกัน
ในสกุล ฝ่ายมารดาและฝ่ายบิดา ของเขา สิ้นแล้ว สาบสูญแล้ว คือตายแล้ว
เหตุนั้น เขาชื่อว่า ขีณโกลญฺโญ ผู้มีญาติซึ่งรู้จักกันในสกุลสิ้นไปแล้ว.
บทว่า อนธิคตํ ได้เเก่ ยังไม่ถึง.
สองบทว่า ผาตึ กาตุํ ได้แก่ เพื่อให้เจริญ. ศัพท์ว่า อิงฺฆ เป็น
อุยโยชนัตถนิบาต.
บทว่า อนุยุญฺชิยมาโน มีความว่า กุลบุตรนั้น อันท่านอุบาลีนำ
ไป ณ ส่วนข้างหนึ่งแล้ว ถามถึงการปลงผมและหนวด การรับผ้ากาสายะ การ
ถึงสรณะ การถืออุปัชฌาย์ กรรมวาจาและธรรมเป็นที่อาศัย.