เมนู

พระอุปัชฌาย์ทั้งหลาย จึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน
พระฉัพพัคคีย์จึงไม่อาปุจฉาพวกเราก่อน แล้วทำการกักกันสามเณรของพวก
เราเล่าแล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่ง
กะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่อาปุจฉาอุปัชฌาย์ก่อนแล้ว
ไม่พึงทำการกักกันสามเณรไว้ รูปใดทำ ต้องอาบัติทุกกฏ.

เรื่องทรงห้ามเกลี้ยกล่อมสามเณร


[123] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์พากันเกลี้ยกล่อมพวกสาม-
เณรของพระเถระทั้งหลาย พระเถระทั้งหลายต้องหยิบไม้ชำระฟันบ้าง ทักน้ำ
ล้างหน้าบ้าง ด้วยตนเอง ย่อมลำบาก จึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาค-
เจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บริษัท
ของภิกษุอื่น ภิกษุไม่พึงเกลี้ยกล่อม รูปใดเกลี้ยกล่อม ต้องอาบัติทุกกฏ.

องค์แห่งนาสนะ 10 ของสามเณร


[124า ก็โดยสมัยนั้นแล สามเณรของท่านพระอุปนันทศากยบุตรชื่อ
กัณฏกะ ได้ประทุษร้ายภิกษุณีกัณฏกี ภิกษุทั้งหลายจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพน-
ทะนาว่า ไฉนสามเณรจึงได้ประพฤติอนาจารเห็นปานนี้เล่า แล้วกราบทูลเรื่อง
นั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตให้นาสนะสามเณรผู้ประกอบด้วยองค์ 10 คือ.
1. ทำสัตว์ที่มีชีวิตให้ตกล่วงไป.
2. ถือเอาพัสดุอันเจ้าของมิได้ให้.
3. ประพฤติกรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์.

4. กล่าววาจาเท็จ.
5. ดื่มน้ำเมา.
6. กล่าวติพระพุทธเจ้า.
7. กล่าวติพระธรรม.
8. กล่าวติพระสงฆ์.
9. มีความเห็นผิด.
10. ประทุษร้ายภิกษุณี.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้นาสนะสามเณรผู้ประกอบด้วยองค์
10 นี้.
เรื่องกักกันสามเณรต้องขออนุญาตก่อน จบ

อรรถกถานาสนังคทัณฑกรรมวัตถุ


หลายบทว่า ยาวตเก วา ปน อุสฺสหติ มีความว่า ย่อมอาจเพื่อ
จะตักเตือนพร่ำสอนสามเณรมีประมาณเท่าใด. ในสิกขาบท 10 ความละเมิด
5 สิกขาบทเบื้องต้น เป็นวัตถุแห่งนาสนา, ความละเมิด 5 สิกขาบทเบื้อง
ปลาย เป็นวัตถุแห่งทัณฑกรรม.
บทว่า อปฺปฏิสฺสา มีความว่า ไม่ตั้งภิกษุไว้ในฐานะผู้เจริญ คือ
ในตำแหน่งแห่งผู้เป็นใหญ่.
บทว่า อสภาควุตฺติกา มีความว่า ไม่เป็นผู้เป็นอยู่เสมอกัน
อธิบายว่าเป็นผู้เป็นอยู่ไม่สมส่วนกัน.