เมนู

พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
ไม่พึงลงทัณฑกรรมคือห้ามสังฆารามทุกแห่ง รูปใดลง ต้องอาบัติทุกกฏ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ลงทัณฑกรรม คือ ห้ามเฉพาะสถานที่ที่สามเณร
จะอยู่หรือจะเข้าไปได้.
ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายลงทัณฑกรรมคือ ห้ามอาหารซึ่งจะกลืน
เข้าไปทางปากแก่พวกสามเณร คนทั้งหลายทำปานะคือยาคูบ้าง สังฆภัตบ้าง
จึงกล่าวนิมนต์พวกสามเณรอย่างนี้ว่า นิมนต์ท่านทั้งหลายมาดื่มยาคู นิมนต์
ท่านทั้งหลายมาฉัน ภัตตาหาร พวกสามเณรจึงกล่าวอย่างนี้ว่า อาวุโสทั้งหลาย
พวกอาตมาทำอย่างนั้น ไม่ได้ เพราะภิกษุทั้งหลายลงทัณฑกรรมคือห้ามไว้.้
ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระผู้เป็นเจ้าผู้
เจริญทั้งหลาย จึงได้ห้ามอาหาร ซึ่งจะกลืนเข้าไปทางช่องปากแก่พวกสามเณร
เหล่าภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงลงทัณฑกรรมคือ
ห้ามอาหารที่จะกลืนเข้าไปทางช่องปาก รูปใดลง ต้องอาบัติทุกกฏ.
เรื่องลงทัณฑกรรมแก่สามสามเณร จบ

เรื่องกักกันสามเณรต้องขออนุญาตก่อน


[122] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์ไม่อาปุจฉาพระอุปัชฌาย์
ก่อนแล้วทำการกักกันสามเณรทั้งหลายไว้ พระอุปัชฌาย์ทั้งหลายเที่ยวตามหา
ด้วยนึกสงสัยว่า ทำไมหนอสามเณรของพวกเราจึ้งหายไป.
ภิกษุทั้งหลายได้แจ้งให้ทราบอย่างนี้ว่า อาวุโสทั้งหลาย พระฉัพพัคดีย์
ได้กักกันไว้.