เมนู

ทรงบัญญัติไม่ให้ภิกษุรูปเดียวรับสามเณร 2 รูปไว้อุปัฏฐาก ก็เรามีสามาเณร
ราหุลนี้อยู่แล้ว ทีนี้เราจะปฏิบัติอย่างไร ดังนี้ จึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มี-
พระภาคเจ้า.
พระผู้ทีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตให้ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถรูปเดียว รับสามเณรสองรูปไว้อุปัฏฐากได้
ก็หรือเธออาจจะโอวาทอนุศาสน์สามเณรมีจำนวนเท่าใดก็ให้รับไว้อุปัฏฐาก มี
จำนวนเท่านั้น.

สิกขาบทของสามเณร


[120] ครั้งนั้น สามเณรทั้งหลาย ได้มีความดำริว่า สิกขาบทของ
พวกเรามีเท่าไรหนอแล และพวกเราจะต้องศึกษาในอะไร ภิกษุทั้งหลาย
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตสิกขาบท 10 แก่สามเณรทั้งหลาย และให้สามเณรทั้งหลายศึกษาใน
สิกขาบท 10 นั้น คือ:-
1. เว้นจากการทำสัตว์ที่มีชีวิตให้ตกล่วงไป.
2. เว้นจากถือเอาพัสดุอันเจ้าของมิได้ให้.
3. เว้นจากกรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์.
4. เว้นจากการกล่าวเท็จ.
5. เว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความ
ประมาท.
6. เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล.

7. เว้นจากฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการเล่นที่เป็น
ข้าศึก.
8 เว้นจากการทัดทรงตกแต่งด้วยดอกไม้ของหอม และเครื่องลูบไล้
อันเป็นฐานแห่งการแต่งตัว.
9. เว้นจากที่นั่งและที่นอนอันสูงและใหญ่.
10. เว้นจากการรับทองและเงิน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตสิกขาบท 10 นี้ แก่สามเณรทั้งหลาย
และให้สามเณรทั้งหลายศึกษาในสิกขาบท 10 นี้.

อรรถกถาราหุลวัตถุกถา


ในคำว่า เยน กปิลวตฺถุ เตน จาริกํ ปกฺกามิ นี้ พึงทราบ
อนุปุพพีกถา ดังต่อไปนี้:-
ได้ยินว่า จำเดิมแต่วันที่พระโพธิสัตว์เสด็จออกอภิเนษกรมณ์พระเจ้า
สุทโธทนมหาราชทรงเงี่ยพระโสตคอยสดับข่าวอยู่เที่ยวว่า ลูกเราออกไปด้วย
หมายใจว่า จักเป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าแล้วหรือยังหนอ ? ท้าวเธอ
ทรงสดับการบำเพ็ญเพียร ความตรัสรู้เองและ พุทธกิจทั้งหลายมียังธรรมจักร
ให้เป็นไปเป็นต้น ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงสดับว่า ได้ยินว่าบัดนี้ ลูก
เราอาศัยกรุงราชคฤห์อยู่ จึงดำรัสสั่งอำมาตย์คนหนึ่งว่า เราแก่เฒ่าแล้วนะพ่อ
ดีละ เจ้าจงแสดงบุตรแก่เราทั้งที่ยังเป็นอยู่ เขารับสาธุแล้ว มีบุรุษพันคนเป็น
บริวาร ไปสู่กรุงราชคฤห์ ถวายบังคมพระบาทพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสธรรมกถาแก่เขา เขาเลื่อมใสทูลขอบรรพชา