เมนู

พลิกกลับไปมาให้ดี ๆ เมื่อหยาดน้ำย้อมยังไม่ขาดสาย ไม่พึงหลีกไปเสีย ถ้า
สัทธิวิหาริกอาพาธ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต พึงรอจนกว่าจะหาย.
สัทธิวิหารริกวัตร จบ

อรรถกถาสัทธิวิหาริกวัตตกถา


พึงทราบวินิจฉัยในการที่อุปัชฌาย์ประพฤติชอบในสัทธิวิหาริกต่อไป:-
ข้อว่า สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ มีความว่า อุปัชฌาย์พึง
ทำการช่วยเหลือและอุคหนุนเธอด้วยกิจมีอุทเทสเเป็นต้น. ในกิจมีอุทเทสเป็น
ต้นนั้น อุทเทสนั้น ได้แก่การบอกบาลี. ปริปุจฉานั้นได้แก่อธิบายความแห่ง
บาลี. โอวาทนั้น ได้แก่การกล่าวว่า จงทำอย่างนี้ อย่าทำอย่างนี้ ในเมื่อเรื่อง
ยังไม่เกิด. อนุศาสนีนั้น ได้แก่ การว่ากล่าวอย่างนั้น ในเมื่อเรื่องเกิดแล้ว
อีกประการหนึ่ง เรื่องจะเกิดหรือไม่เกิดก็ตาม การว่ากล่าวครั้งแรก ชื่อโอวาท.
การพร่ำสอนอยู่เนือง ๆ ชื่ออนุศาสนี.
ข้อว่า สเจ อปชฺฌายสฺส ปตฺโต โหติ มีความว่า ถ้าอติเรก
บาตรมี. มีนัยเหมือนกันทุกแห่ง สมณบริขารแม้อื่น ชื่อว่าบริขาร. ความค้น
คว้าหาอุบายซึ่งเกิดขึ้นโดยนัยอันชอบธรรม ชื่อว่า ความขวนขวาย ในสัทธิ-
วิหาริหาวัตรนี้. ถัดจากนี้ไป วัตรตั้งต้นแต่ให้ไม้สีฟัน ถึงที่สุดเติมน้ำในหม้อ
ชำระ อุปัชฌาย์ควรทำแก่สัทธิวิหาริกเฉพาะผู้เป็นไข้. อนึ่ง กิจมีพาเที่ยวเพื่อ
ระงับความกระสันเป็นต้น แม้สัทธิวิหาริกไม่เป็นไข้ อุปัชฌาย์ก็ควรทำแท้.
ข้อว่า จีวรํ รชนฺเตน มีความว่า เมื่อได้ฟังอุบายจากอุปัชฌาย์ว่า
พึงย้อมอย่างนี้ แล้วจึงย้อม คำที่เหลือ พึงทราบตามนัยที่กล่าวแล้วนั้น.
อรรถกถาสัทธิวิหาริกวัตตกถา จบ

การประณามและการให้ขมา


[83] ก็โดยสมัยนั้นแล สัทธิวิหาริกทั้งหลายไม่ประพฤติชอบใน
อุปัชฌายะทั้งหลาย บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย . . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน
โพนทะนาว่า ไฉนสัทธิวิหาริกทั้งหลายจึงไม่ประพฤติชอบในอุปัชฌายะทั้งหลาย
เล่าแล้วได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าสัทธิวิหาริกทั้งหลายไม่ปฏิบัติชอบในอุปัชฌายะทั้งหลาย จริงหรือ ?
ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียน


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
สัทธิวิหาริกทั้งหลายจึงไม่พระพฤติชอบในอุปัชฌายะทั้งหลายเล่า ครั้นแล้วทรง
ทำธรรมีกถา รับสั่งกะภิกษุทั้งหลา ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัทธิวิหาริกจะ
ไร่ประพฤติชอบในอุปัชฌายะไม่ได้ รูปใดไม่ประพฤติชอบ ต้องอาบัติทุกกฏ.
สัทธิวิหาริกทั้งหลายยังไม่ประพฤติชอบอย่างเดิม ภิกษุทั้งหลายจึง
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตให้ประณามสัทธิวิหาริกผู้ไม่พระพฤติชอบ.

วิธีประณาม


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล อุปัชฌายะพึงประณามสัทธิวิหาริกอย่างนี้
ว่าฉันประณามเธอ เธออย่าเข้ามา ณ ที่นี้ เธอจงขนบาตรจีวรของเธอออกไป
เสีย พึงประณามว่า เธอไม่ต้องอุปัฏฐากฉัน ดังนี้ก็ได้.