เมนู

ผ้านั้นมีไม่พอ เมื่อความหวังจะได้มีอยู่ ภิกษุนั้นพึงเก็บจีวรนั้นไว้ได้
เดือนหนึ่งเป็นอย่างยิ่ง เพื่อจีวรที่ยังบกพร่องจะได้พอกัน ถ้าเก็บไว้
ยิ่งกว่ากำหนดนั้น แม้ความหวังว่าจะได้มีอยู่ ก็เป็นนิสสัคคีย์ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.
เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง จบ

สิกขาบทวิภังค์


[34] บทว่า จีวรของภิกษุสำเร็จแล้ว ความว่า จีวรของภิกษุ
ทำสำเร็จแล้วก็ดี หายเสียก็ดี ฉิบหายเสียก็ดี ถูกไฟไหม้เสียก็ดี หมด
หวังว่าจะได้ทำจีวรก็ดี
คำว่า กฐินเดาะเสียแล้ว คือ เดาะเสียแล้วด้วยมาติกาอันใดอันหนึ่ง
ในมาติกา 8 หรือสงฆ์เดาะเสียในระหว่าง
ที่ชื่อว่า อกาลจีวร ได้แก่ ผ้าที่เมื่อไม่ได้กรานกฐินเกิดได้ตลอด 11
เดือน เมื่อได้กรานกฐินแล้ว เกิดได้ตลอด 7 เดือน แม้ผ้าที่เขาเจาะจง
ให้เป็นอกาลจีวรถวายในกาล นี่ก็ชื่อว่าอกาลจีวร.
บทว่า เกิดขึ้น คือ เกิดแต่สงฆ์ก็ตาม แต่คณะตาม แต่ญาติ
ก็ตาม แต่มิตรก็ตาม แต่ที่บังสกุลก็ตาม แต่ทรัพย์ของตนก็ตาม.
[35] บทว่า หวังอยู่ คือ เมื่อต้องการก็พึงรับไว้
คำว่า ครั้นรับแล้วพึงรับให้ทำ คือ พึงให้ทำให้เสร็จใน 10 วัน
[36] พากย์ว่า ถ้าผ้านั้นมีไม่พอ คือ จะทำไตรจีวรผืนใดผืน
หนึ่งไม่เพียงพอ

พากย์ว่า ภิกษุนั้นพึงเก็บจีวรนั้นไว้ได้เดือนหนึ่งเป็นอย่างยิ่ง คือ
เก็บไว้ได้เดือนหนึ่งเป็นอย่างนาน
คำว่า เพื่อจีวรที่ยังบกพร่องจะได้พอกัน คือ เพื่อประสงค์จะยัง
จีวรที่บกพร่องให้บริบูรณ์
พากย์ว่า เมื่อความหวังว่าจะได้มีอยู่ คือ มีความหวังว่าจะได้มา
แต่สงฆ์ก็ตาม แต่คณะก็ตาม แต่ญาติก็ตาม แต่มิตรก็ตาม แต่ที่บังสุกุล
ก็ตาม แต่ทรัพย์ของตนก็ตาม

จีวรที่มีหวัง


[37] พากย์ว่า ถ้าเก็บรู้ยิ่งกว่ากำหนดนั้น แม้ความหวังว่า
จะได้มีอยู่ อธิบายว่า จีวรเดิมเกิดขึ้นในวันนั้น จีวรที่หวังก็เกิดในวันนั้น
พึงให้ทำให้เสร็จใน 10 วัน
จีวรเดิมเกิดได้ 2 วัน จีวรที่หวังจึงเกิด พึงให้ทำให้เสร็จ
ใน 10 วัน
จีวรเดิมเกิดได้ 3 วัน จีวรที่หวังจึงเกิด พึงให้ทำให้เสร็จ
ใน 10 วัน
จีวรเดิมเกิดได้ 4 วัน จีวรที่หวังจึงเกิด พึงให้ทำให้เสร็จ
ใน 10 วัน
จีวรเดิมเกิดได้ 5 วัน จีวรที่หวังจึงเกิด พึงให้ทำให้เสร็จ
ใน 10 วัน
จีวรเดิมเกิดได้ 6 วัน จีวรที่หวังจึงเกิด พึงให้ทำให้เสร็จ
ใน 10 วัน