เมนู

เป็นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนญาตแล้วเพื่อใช้สอย. ก็จีวร 3 ผืนนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงอนุญาตในที่ใด ทรงอนญาตเมื่อไร ? และ
ทรงอนุญาตเพราะเหตุไร ? คำนั้นทั้งหมดมาแล้วในเรื่องหมอชีวกในจีวร-
ขันธกะนั่นแล.
ข้อว่า อญฺเญเนว ติจีวเรน คามํ ปวิสนฺติ มีความว่า พวกภิกษุ
ฉัพพัคคีย์ ครองไตรจีวรเข้าบ้านสำรับหนึ่งต่างหาก จากสำรับที่ใช้ครอง
อยู่ในวัด และสำรับที่ใช้ครองสรงน้ำ. ใช้จีวรวันละ 9 ผืน ทุกวัน ด้วย
อาการอย่างนี้.
สองบทว่า อุปฺปนฺนํ โหติ มีความว่า อดิเรกจีวรนี้ เกิดขึ้นให้
ช่องแก่อนุบัญญัติ ด้วยอำนาจการได้ มิใช่ด้วยอำนาจความสำเร็จ.

[แก้อรรถปฐมบัญญัติเรื่องพระอานนท์]


ข้อว่า อายสฺมโต สารีปุตฺตสฺส ทาตุกาโม โหติ มีความว่า ได้ยิน
ว่า ท่านพระอานนท์ ย่อมนับถือท่านพระสารีบุตรโดยนับถือความมีคุณ
มากของพระสารีบุตรว่า เว้นพระผู้มีพระภาคเจ้า บุคคลอื่นที่มีคุณวิเศษ
เห็นปานนี้ ไม่มีเลย. ท่านได้จีวรที่ชอบใจ ซักแล้ว กระทำพินทุกัปปะ
แล้ว ถวายแก่พระเถระนั่นแล แม้ทุกคราว. ในเวลาก่อนฉันได้ยาคูและ
ของเคี้ยว หรือบิณฑบาตอันประณีตแล้ว ย่อมถวายแก่พระเถระเหมือน
กัน. ในเวลาหลังฉัน แม้ได้เภสัช มีน้ำผึ้งและน้ำอ้อยเป็นต้น ก็ถวาย
แก่พระเถระนั่นเอง พาเด็กทั้งหลายออกจากตระกูลอุปัฏฐาก ให้บรรพชา
ให้ถืออุปัชฌายะ ในสำนักพระเถระแล้ว กระทำอนุสาวนากรรมเอง.
ฝ่ายท่านพระสารีบุตร ก็นับถือท่านพระอานนท์เหลือเกิน ด้วยทำในใจว่า

ธรรมดาว่า กิจที่บุตรจะพึงกระทำแก่บิดา เป็นภาระของบุตรคนโต;
เพราะฉะนั้น กิจใดที่เราจะพึงกระทำแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า กิจนั้น
ทั้งหมด พระอานนท์กระทำอยู่, เราอาศัยพระอานนท์จึงได้เพื่อเป็นผู้มี
ความขวนขวายน้อยอยู่. คำทั้งหมดว่า แม้พระเถระนั้น ได้จีวรที่ชอบใจ
แล้ว ก็ถวายพระอานนทเถระเหมือนกัน เป็นต้น เป็นเช่นกับด้วยคำ
ก่อนนั่นแล. พระอานนทเถระนับถือด้วยความนับถือคุณมากอย่างนี้
บัณฑิตพึงทราบว่า ย่อมเป็นผู้มีความประสงค์จะถวายจีวรนั้น แม้ที่เกิด
ขึ้นในครั้งนั้นแก่ท่านพระสารีบุตร.
ก็ในคำว่า นวมํ วา ภควา ทิวสํ ทสมํ วา นี้ หากใคร ๆ จะพึง
มีความสงสัยว่า พระเถระทราบได้อย่างไร ?
ตอบว่า พระเถระทราบได้ด้วยเหตุหลายอย่าง.

[เหตุที่พระอานนท์ทราบการมาของพระสารีบุตรได้]


ได้ยินว่า พระสารีบุตรเถระ เมื่อจะหลีกจาริกไปในชนบท มัก
บอกลาพระอานนทเถระก่อนแล้วจึงหลีกไปว่า ผมจักมาโดยกาลชื่อว่า
ประมาณเท่านี้ ในระหว่างนี้ ท่านอย่าละเลยพระผู้มีพระภาคเจ้า ดังนี้.
ถ้าแม้นว่า ท่านไม่บอกลาในที่ต่อหน้า, ก็ต้องส่งภิกษุไปบอกลาก่อนจึง
ไป. ถ้าว่า ท่านอยู่จำพรรษาในอาวาสอื่น, และภิกษุเหล่าใดมาก่อน
ท่านก็ส่งภิกษุเหล่านั้นไปอย่างนี้ว่า พวกท่านจงถวายบังคม พระบาทยุคล
ของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า ตามคำของเรา, และจงเรียนถาม
ถึงความไม่มีโรคของพระอานนท์แล้วบอกว่า เราจักมาในวันชื่อโน้น,
และพระเถระย่อมมาในวันตามที่ท่านกำหนดไว้แล้วนั่นแลเสมอ ๆ.