เมนู

บทภาชนีย์


นิสสัคคิยปาจิตตีย์


[7] จีวรล่วง 10 วันแล้ว ภิกษุสำคัญว่าล่วงแล้ว เป็นนิสสัคคีย์
ต้องอาบัติปาจิตตีย์
จีวรล่วง 10 วันแล้ว ภิกษุสงสัย เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
จีวรล่วง 10 วันแล้ว ภิกษุสำคัญว่ายังไม่ล่วง เป็นนิสสัคคีย์ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่ได้อธิษฐาน ภิกษุสำคัญว่าอธิษฐานแล้ว เป็นนิสสัคคีย์
ต้องอาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่ได้วิกัป ภิกษุสำคัญว่าวิกัปแล้ว เป็นนิสสัคคีย์ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่ได้สละ ภิกษุสำคัญว่าสละแล้ว เป็นนิสสัคคีย์ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่หาย ภิกษุสำคัญว่าหายเเลว้ เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
จีวรยังไม่ฉิบทาย ภิกษุสำคัญว่าฉิบทายแล้ว เป็นนิสสัคคีย์ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่ถูกไฟไหม้ ภิกษุสำคัญว่าถูกไฟไหม้แล้ว เป็นนิสสัคคีย์
ต้องอาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่ถูกชิงไป ภิกษุสำคัญว่าถูกชิงไปแล้ว เป็นนิสสัคคีย์ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์

ทุกกฏ


จีวรเป็นนิสสัคคีย์ ภิกษุยังไม่ได้เสียสละ บริโภค ต้องอาบัติทุกกฏ
จีวรยังไม่ล่วง 10 วัน ภิกษุสำคัญว่าล่วงแล้ว บริโภค ต้องอาบัติ
ทุกกฏ
จีวรยังไม่ล่วง 10 วัน ภิกษุสงสัย บริโภค ต้องอาบัติทุกกฏ

ไม่ต้องอาบัติ


จีวรยังไม่ล่วง 10 วัน ภิกษุสำคัญว่ายังไม่ล่วง บริโภค ไม่ต้อง
อาบัติ.

อนาปัตติวาร


[8] ในภายใน 10 วัน ภิกษุอธิษฐาน 1 ภิกษุวิกัปไว้ 1 ภิกษุ
สละให้ไป 1 จีวรหาย 1 จีวรฉิบหาย 1 จีวรถูกไฟไหม้ 1 โจรชิงเอา
ไป 1 ภิกษุถือวิสาสะ 1 ภิกษุวิกลจริต 1 ภิกษุอาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้อง
อาบัติแล.

เรื่องพระฉัพพัคคีย์


[9] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์ไม่ให้คืนจีวรที่เสียสละ บรรดา
ภิกษุผู้มักน้อย สันโดษ มีความละอาย มีความรังเกียจ ผู้ใคร่ต่อสิกขา
ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระฉัพพัคคีย์จึงไม่ให้คืนจีวร
ที่เสียสละเล่า แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า