เรื่องชักโยงสามีภรรยาผู้ทะเลาะให้คืนดี
[492] ก็โดยสมัยนั้นแล สตรีคนหนึ่งทะเลาะกับสามี แล้วได้
ไปยังเรือนมารดา ภิกษุกุลุปกะได้ชักโยงให้คืนดีกันแล้ว เธอได้มีความ
รังเกียจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่อง
นั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ เขาหย่ากันแล้วหรือ
ภิ. เขายังไม่ได้หย่ากัน พระพุทธเจ้าข้า
ภ ดูก่อนภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติ เพราะเขายังไม่ทันหย่ากัน.
เรื่องการชักสื่อในบัณเฑาะก์
[493] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งถึงการชักสื่อในบัณเฑาะก์
เเล้ว เธอได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้ว กระมังหนอ
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอ
ไม่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 5 บท
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 5
สัญจริตตสิกขาบทวรรณนา
สัญจริตตสิกขา บทว่า เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เป็นต้น
ข้าพเจ้าจะกล่าวต่อไป:-
ในสัญจริตตสิกขาบทนั้น พึงทราบวินิจฉัยดังนี้:-
[แก้อรรถปฐมบัญญัติเรื่องพระอุทายี]
บทว่า ปณฺฑิตา ได้แก่ ผู้ประกอบด้วยความเป็นผู้ฉลาด คือผู้มี
ปัญญาเป็นเครื่องดำเนินไป.