เมนู

ครั้นสละแล้วพึงแสดงอาบัติ ภิกษุผู้รับเสียสละนั้น พึงรับอาบัติ
พึงคืนจีวรที่เสียสละให้ด้วยคำว่า ข้าพเจ้าให้จีวรผืนนี้แก่ท่าน ดังนี้.

บทภาชนีย์


นิสสัคคิยปาจิตตีย


[167] จีวรเกิน 6 คืน ภิกษุสำคัญว่าเกิน อยู่ปราศ เว้นไว้แต่
ภิกษุได้สมมติ เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
จีวรเกิน 6 คืน ภิกษุสงสัย อยู่ปราศ เว้นไว้แต่ภิกษุได้สมมติ
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
จีวรเกิน 6 คืน ภิกษุสำคัญว่ายังไม่ถึง อยู่ปราศ เว้นไว้เเต่ภิกษุ
ได้สมมติ เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่ได้ถอน ภิกษุสำคัญว่าถอนแล้ว อยู่ปราศ เว้นไว้แต่
ภิกษุได้สมมติ เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่ได้สละ ภิกษุสำคัญว่าสละแล้ว อยู่ปราศ เว้นไว้เเต่ภิกษุ
ได้สมมติ เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่หาย ภิกษุสำคัญว่าหายแล้ว อยู่ปราศ เว้นไว้เเต่ได้สมมติ
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่ฉิบหาย ภิกษุสำคัญว่าฉิบหายแล้ว อยู่ปราศ เว้นไว้แต่
ภิกษุได้สมมติ เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
จีวรยังไม่ถูกไฟไหม้ ภิกษุสำคัญว่าถูกไฟไหม้แล้ว อยู่ปราศ เว้น
ไว้เเต่ภิกษุได้สมมติ เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

จีวรยังไม่ถูกชิงไป ภิกษุสำคัญว่าถูกชิงไปแล้ว อยู่ปราศ เว้นไว้
แต่ภิกษุได้สมมติ เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

ทุกกฏ


จีวรเป็นนิสสัคคีย์ ภิกษุไม่ได้สละ บริโภค ต้องอาบัติทุกกฏ
จีวรยังไม่ถึง 6 ราตรี ภิกษุสำคัญว่าเกิน...ต้องอาบัติทุกกฏ
จีวรยังไม่ถึง 6 ราตรี ภิกษุสงสัย...ต้องอาบัติทุกกฏ

ไม่ต้องอาบัติ


จีวรยังไม่ถึง 6 ราตรี ภิกษุสำคัญว่ายังไม่ถึง 6 ราตรี บริโภค
ไม่ต้องอาบัติ.

อนาปัตติวาร


[168] ภิกษุอยู่ปราศ 6 ราตรี 1 ภิกษุอยู่ปราศไม่ถึง 6 ราตรี 1
ภิกษุอยู่ปราศ 6 ราตรีแล้วกลับมายังคามสีมา อยู่แล้วหลีกไป 1 ภิกษุ
ถอนเสียภายใน 6 ราตรี 1 ภิกษุสละให้ไป 1 จีวรหาย 1 จีวรฉิบหาย 1
จีวรถูกไฟไหม้ 1 จีวรถูกชิงเอาไป 1 ภิกษุถือวิสาสะ 1 ภิกษุได้สมมติ 1
ภิกษุวิกลจริต 1 ภิกษุอาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ปัตตวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ