เมนู

เพราะเหตุดังนั้นแล เป็นกาลสมควรที่ท่านจะไปยังเกาะอันประเสริฐแล้ว แม้
กระผม ก็จักร่วมเป็นเพื่อนท่านด้วย.
ถามว่า ก็เพราะเหตุไร ท้าวสักกะจึงได้ตรัสอย่างนั้น ?
แก้ว่า เพราะได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรงตรวจดูโลกด้วย
พุทธจักษุ ที่ควงแห่งโพธิพฤกษ์นั่นเอง ได้ทอดพระเนตรเห็นสมบัติแห่งเกาะ
นี้ในอนาคตจึงได้ตรัสบอกความนั่นแก่ท้าวสักกะนั้น และทรงสั่งบังคับไว้
ด้วยว่า ในเวลานั้น ถึงบพิตรก็ควรร่วมเป็นสหายด้วย, ดังนี้ ฉะนั้น ท้าวสักกะ
จึงได้ตรัสอย่างนั้น.

[พระมหินทเถระพร้อมกับคณะไปเกาะลังกา]


พระเถระ รับคำของท้าวสักกะนั้นแล้ว เป็น 7 คนทั้งตน เหาะขึ้น
ไปสู่เวหาจากเวทิสบรรพต แล้วดำรงอยู่บนมิสสกบรรพต ซึ่งชนทั้งหลายใน
บัดนี้จำกันได้ว่า เจติยบรรพต บ้าง ทางทิศบูรพาแห่งอนุราชบุรี. เพราะ
เหตุนั้น พระโบราณาจารย์ทั้งหลายจึงได้กล่าวไว้ว่า
พระเถระทั้งหลายพักอยู่ที่เวทิสคิรี-
บรรพตใกล้กรุงราชคฤห์ สิ้น 30 ราตรีได้
ดำริว่า เป็นกาลสมควร ที่จะไปยังเกาะอัน
ประเสริฐ, พวกเราจะพากันไปสู่เกาะอัน
อุดม ดังนี้ แล้วได้เหาะขึ้นจากชมพูทวีป
ลอยไปในอากาศดุจพญาหงส์บินไปเหนือ
ท้องฟ้าฉะนั้น, พระเถระทั้งหลายเหาะขึ้นไป
แล้วอย่างนั้น ก็ลงที่ยอดเขาแล้ว ยืนอยู่บน
ยอดบรรพต ซึ่งงามไปด้วยเมฆ อันตั้งอยู่
ข้างหน้าแห่งบุรีอันประเสริฐราวกะว่า หมู่-
หงส์จับอยู่บนยอดเขาฉะนั้น.