เมนู

[พระเถระให้โอวาทพวกยักษ์และรากษสเป็นต้น]


ลำดับนั้น ท่านพระมัชฌันติกเถระ เรียกพวกนาคและรากษสแม้
ทั้งหมดมาแล้ว จึงกล่าวอย่างนี้ว่า
จำเดิมแต่บัดนี้เป็นต้นไป พวกท่าน
อย่าให้ความโกรธเกิดขึ้นเหมือนในกาลก่อน
เลย และอย่าทำลายข้าวกล้า ( ให้เสียหาย )
เพราะว่า สัตว์ทั้งหลาย ใครต่อความสุข
จงแผ่เมตตาไปในสัตว์ทั้งหลายว่า ขอมวล
มนุษย์ จงอยู่เป็นสุขเถิด.

นาคและยักษ์เป็นต้นเหล่านั้นทั้งหมด รับโอวาทขอพระเถระว่า ดีละ
ท่านผู้เจริญ ! ได้ปฏิบัติตามที่ท่านพร่ำสอนแล้ว. ก็ในวันนั้นแล เป็นสมัยทำ
การบูชาพญานาค. เวลานั้น พญานาค สั่งให้นำรัตนบัลลังก์ของตน มาแต่งตั้ง
ถวายพระเถระ. พระเถระ ก็นั่งบนบัลลังก์. ฝ่ายพญานาค ได้ยืนพัดพระเถระ
อยู่ในที่ใกล้. ในขณะนั้น มนุษย์ทั้งหลายผู้อยู่ในแคว้นกัสมีรคันธาระมาเห็น
พระเถระแล้ว ก็พูดกันว่า พระเถระมีฤทธิ์มากแม้กว่าพญานาคของพวกเรา
แล้วได้นั่งลงไหว้พระเถระนั่นแล. พระเถระ ก็แสดงอาสิวิโสปมสูตร* แก่
มนุษย์เหล่านั่น. ในเวลาจบพระสูตร สัตว์ประมาณแปดหมื่น ได้บรรลุ
ธรรมาภิสมัย. แสนตระกูลออกบวชแล้ว, ก็แลจำเดิมแต่กาลนั้นมา แคว้น
กัสมีรคันธาระ ก็รุ่งเรืองไปด้วยผ้ากาสาวพัสตร์ อบอวลไปด้วยลมพวกฤษีจน
ตราบเท่าทุกวันนี้.
* น่าจะเป็นอลคัททูปมสูตร ม. ม. 12/261.




ในกาลนั้น พระมัชฌันติกะ ผู้ฤษี
ไปยังแคว้นกัสมีรคันธาระแล้ว ให้พญานาค
ผู้ดุร้าย เลื่อมใสแล้ว ได้ปลดเปลื้องสัตว์
เป็นอันมาก ให้พ้นจากเครื่องผูกแล้วแล.

[พระมหาเทวเถระไปประกาศพระศาสนาที่มหิสสกมณฑล]


ฝ่ายพระมหาเทวเถระ ไปยังมหิสสกมณฑลแล้ว ก็แสดงเทวทูตสูตร1.
ในเวลาจบพระสูตร สัตว์ประสี่หมื่น ได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว. สัตว์
ประมาณสี่หมื่นนั่นแล ออกบวชแล้ว.
พระมหาเทวเถระ ผู้มีฤทธิ์มาก ไป
ยังมหิสสกรัฐแล้ว โอวาทตักเตือน ด้วย
เทวทูตทั้งหลาย ได้ปลดเปลื้องสัตว์เป็น
อันมาก ให้พ้นจากเครื่องผูกแล้วแล.

[พระรักขิตเถระไปประกาศพระศาสนาที่แคว้นนวาสี]


ส่วนพระรักขิตเถระ ไปยังแคว้นวนวาสีชนบทแล้ว ยืนอยู่บนอากาศ
ให้ชนชาวนวาสีชนบทเลื่อมใส ด้วยอนมตัคคปริยายกถา2. ก็ในเวลาจบกถา
ของพระเถระนั้น สัตว์ประมาณหกหมื่น ได้บรรลุธรรมแล้ว. ประชาชน
ประมาณสามหมื่นเจ็ดพันบวชแล้ว. วิหาร 500 หลัง ก็ประดิษฐานขึ้นแล้ว.
พระเถระนั้น ได้ประดิษฐานพระศาสนาให้ดำรงมั่นอยู่ในแคว้นวนวาสีชนบท
นั้นแล้ว ด้วยประการฉะนี้.
1. ม. อุป. 14/334. 2. สํ. นิทาน. 16/212-228