ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;
ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ, พุทฺธํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุฯ
[240]
ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;
ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ, ธมฺมํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุฯ
[241]
ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;
ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ, สงฺฆํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตูติฯ
รตนสุตฺตํ ปฐมํ นิฏฺฐิตํฯ
2. อามคนฺธสุตฺตํ
[242]
‘‘สามากจิงฺคูลกจีนกานิ จ, ปตฺตปฺผลํ มูลผลํ ควิปฺผลํ;
ธมฺเมน ลทฺธํ สตมสฺนมานา [สตมสมานา (สี. ปี.), สตมสฺสมานา (สฺยา. กํ.)], น กามกามา อลิกํ ภณนฺติฯ
[243]
‘‘ยทสฺนมาโน สุกตํ สุนิฏฺฐิตํ, ปเรหิ ทินฺนํ ปยตํ ปณีตํ;
สาลีนมนฺนํ ปริภุญฺชมาโน, โส ภุญฺชสี กสฺสป อามคนฺธํฯ
[244]
‘‘น อามคนฺโธ มม กปฺปตีติ, อิจฺเจว ตฺวํ ภาสสิ พฺรหฺมพนฺธุ;
สาลีนมนฺนํ ปริภุญฺชมาโน, สกุนฺตมํเสหิ สุสงฺขเตหิ;
ปุจฺฉามิ ตํ กสฺสป เอตมตฺถํ, กถํ ปกาโร ตว อามคนฺโธ’’ฯ
[245]
‘‘ปาณาติปาโต วธเฉทพนฺธนํ, เถยฺยํ มุสาวาโท นิกติวญฺจนานิ จ;
อชฺเฌนกุตฺตํ [อชฺเฌน กุชฺชํ (สี. ปี.)] ปรทารเสวนา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํฯ
[246]
‘‘เย อิธ กาเมสุ อสญฺญตา ชนา, รเสสุ คิทฺธา อสุจิภาวมสฺสิตา [อสุจีกมิสฺสิตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];
นตฺถิกทิฏฺฐี วิสมา ทุรนฺนยา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํฯ
[247]
‘‘เย ลูขสา ทารุณา ปิฏฺฐิมํสิกา [เย ลูขรสา ทารุณา ปรปิฏฺฐิมํสิกา (ก.)], มิตฺตทฺทุโน นิกฺกรุณาติมานิโน;
อทานสีลา น จ เทนฺติ กสฺสจิ, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํฯ
[248]
‘‘โกโธ มโท ถมฺโภ ปจฺจุปฏฺฐาปนา [ปจฺจุฏฺฐาปนา จ (สี. สฺยา.), ปจฺจุฏฺฐาปนา (ปี.)], มายา อุสูยา ภสฺสสมุสฺสโย จ;
มานาติมาโน จ อสพฺภิ สนฺถโว, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํฯ
[249]
‘‘เย ปาปสีลา อิณฆาตสูจกา, โวหารกูฏา อิธ ปาฏิรูปิกา [ปาติรูปิกา (?)];
นราธมา เยธ กโรนฺติ กิพฺพิสํ, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํฯ
[250]
‘‘เย อิธ ปาเณสุ อสญฺญตา ชนา, ปเรสมาทาย วิเหสมุยฺยุตา;
ทุสฺสีลลุทฺทา ผรุสา อนาทรา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํฯ
[251]
‘‘เอเตสุ คิทฺธา วิรุทฺธาติปาติโน, นิจฺจุยฺยุตา เปจฺจ ตมํ วชนฺติ เย;
ปตนฺติ สตฺตา นิรยํ อวํสิรา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํฯ
[252]
‘‘น มจฺฉมํสานมนาสกตฺตํ [น มจฺฉมํสํ น อนาสกตฺตํ (สี. อฏฺฐ มูลปาโฐ), น มํจฺฉมํสานานาสกตฺตํ (สฺยา. ก.)], น นคฺคิยํ น มุณฺฑิยํ ชฏาชลฺลํ;
ขราชินานิ นาคฺคิหุตฺตสฺสุปเสวนา, เย วาปิ โลเก อมรา พหู ตปา;
มนฺตาหุตี ยญฺญมุตูปเสวนา, โสเธนฺติ มจฺจํ อวิติณฺณกงฺขํฯ
[253]
‘‘โย เตสุ [โสเตสุ (สี. ปี.)] คุตฺโต วิทิตินฺทฺริโย จเร, ธมฺเม ฐิโต อชฺชวมทฺทเว รโต;
สงฺคาติโค สพฺพทุกฺขปฺปหีโน, น ลิปฺปติ [น ลิมฺปติ (สฺยา. กํ ก.)] ทิฏฺฐสุเตสุ ธีโร’’ฯ
[254]
อิจฺเจตมตฺถํ ภควา ปุนปฺปุนํ, อกฺขาสิ นํ [ตํ (สี. ปี.)] เวทยิ มนฺตปารคู;
จิตฺราหิ คาถาหิ มุนี ปกาสยิ, นิรามคนฺโธ อสิโต ทุรนฺนโยฯ
[255]
สุตฺวาน พุทฺธสฺส สุภาสิตํ ปทํ, นิรามคนฺธํ สพฺพทุกฺขปฺปนูทนํ;
นีจมโน วนฺทิ ตถาคตสฺส, ตตฺเถว ปพฺพชฺชมโรจยิตฺถาติฯ
อามคนฺธสุตฺตํ ทุติยํ นิฏฺฐิตํฯ
3. หิริสุตฺตํ
[256]
หิริํ ตรนฺตํ วิชิคุจฺฉมานํ, ตวาหมสฺมิ [สขาหมสฺมิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อิติ ภาสมานํ;
สยฺหานิ กมฺมานิ อนาทิยนฺตํ, เนโส มมนฺติ อิติ นํ วิชญฺญาฯ
[257]
อนนฺวยํ [อตฺถนฺวยํ (ก.)] ปิยํ วาจํ, โย มิตฺเตสุ ปกุพฺพติ;
อกโรนฺตํ ภาสมานํ, ปริชานนฺติ ปณฺฑิตาฯ
[258]
น โส มิตฺโต โย สทา อปฺปมตฺโต, เภทาสงฺกี รนฺธเมวานุปสฺสี;
ยสฺมิญฺจ เสติ อุรสีว ปุตฺโต, ส เว มิตฺโต โย ปเรหิ อเภชฺโชฯ
[259]
ปามุชฺชกรณํ ฐานํ, ปสํสาวหนํ สุขํ;
ผลานิสํโส ภาเวติ, วหนฺโต โปริสํ ธุรํฯ
[260]
ปวิเวกรสํ ปิตฺวา, รสํ อุปสมสฺส จ;
นิทฺทโร โหติ นิปฺปาโป, ธมฺมปีติรสํ ปิวนฺติฯ
หิริสุตฺตํ ตติยํ นิฏฺฐิตํฯ
4. มงฺคลสุตฺตํ
เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข อญฺญตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
[261]
‘‘พหู เทวา มนุสฺสา จ, มงฺคลานิ อจินฺตยุํ;
อากงฺขมานา โสตฺถานํ, พฺรูหิ มงฺคลมุตฺตมํ’’ฯ
[262]