‘‘ปสฺสามหํ เทวมนุสฺสโลเก, อกิญฺจนํ พฺราหฺมณมิริยมานํ;
ตํ ตํ นมสฺสามิ สมนฺตจกฺขุ, ปมุญฺจ มํ สกฺก กถํกถาหิ’’ฯ
[1070]
‘‘นาหํ สหิสฺสามิ [สมิสฺสามิ (สฺยา.), คมิสฺสามิ (สี.), สมีหามิ (ปี.)] ปโมจนาย, กถํกถิํ โธตก กญฺจิ โลเก;
ธมฺมญฺจ เสฏฺฐํ อภิชานมาโน [อาชานมาโน (สี. สฺยา. ปี.)], เอวํ ตุวํ โอฆมิมํ ตเรสิ’’ฯ
[1071]
‘‘อนุสาส พฺรหฺเม กรุณายมาโน, วิเวกธมฺมํ ยมหํ วิชญฺญํ;
ยถาหํ อากาโสว อพฺยาปชฺชมาโน, อิเธว สนฺโต อสิโต จเรยฺยํ’’ฯ
[1072]
‘‘กิตฺตยิสฺสามิ เต สนฺติํ, (โธตกาติ ภควา) ทิฏฺเฐ ธมฺเม อนีติหํ;
ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’ฯ
[1073]
‘‘ตญฺจาหํ อภินนฺทามิ, มเหสิ สนฺติมุตฺตมํ;
ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’ฯ
[1074]
‘‘ยํ กิญฺจิ สมฺปชานาสิ, (โธตกาติ ภควา)
อุทฺธํ อโธ ติริยญฺจาปิ มชฺเฌ;
เอตํ วิทิตฺวา สงฺโคติ โลเก, ภวาภวาย มากาสิ ตณฺห’’นฺติฯ
โธตกมาณวปุจฺฉา ปญฺจมี นิฏฺฐิตาฯ
6. อุปสีวมาณวปุจฺฉา
[1075]
‘‘เอโก อหํ สกฺก มหนฺตโมฆํ, (อิจฺจายสฺมา อุปสีโว)
อนิสฺสิโต โน วิสหามิ ตาริตุํ;
อารมฺมณํ พฺรูหิ สมนฺตจกฺขุ, ยํ นิสฺสิโต โอฆมิมํ ตเรยฺยํ’’ฯ
[1076]