เมนู

อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ โข อยํ สตฺโต ยสฺสายํ เอวรูโป อิทฺธานุภาโว’’ติ ? อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สกฺโก โข อยํ เทวานมินฺโท’’ติฯ อิติ วิทิตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กตํ โข เต อิทํ, โกสิย; มา [มาสฺสุ (สี. สฺยา.)] ปุนปิ เอวรูปมกาสี’’ติฯ ‘‘อมฺหากมฺปิ, ภนฺเต กสฺสป, ปุญฺเญน อตฺโถ; อมฺหากมฺปิ ปุญฺเญน กรณีย’’นฺติฯ

อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ [ปรมํ ทานํ (ปี. ก.)] กสฺสเป สุปฺปติฏฺฐิตํ! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺฐิตํ!! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺฐิต’’นฺติ!!! อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนนฺตสฺส – ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺฐิตํ! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺฐิตํ!! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺฐิต’’นฺติ!!!

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ปิณฺฑปาติกสฺส ภิกฺขุโน,

อตฺตภรสฺส อนญฺญโปสิโน;

เทวา ปิหยนฺติ ตาทิโน,

อุปสนฺตสฺส สทา สตีมโต’’ติฯ สตฺตมํ;

8. ปิณฺฑปาติกสุตฺตํ

[28] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ กเรริมณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ –

‘‘ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา รูเป ปสฺสิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก โสเตน สทฺเท โสตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ฆาเนน คนฺเธ ฆายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ชิวฺหาย รเส สายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก กาเยน โผฏฺฐพฺเพ ผุสิตุํฯ ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ปิณฺฑาย จรติฯ หนฺทาวุโส, มยมฺปิ ปิณฺฑปาติกา โหมฯ มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา รูเป ปสฺสิตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก โสเตน สทฺเท โสตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก ฆาเนน คนฺเธ ฆายิตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก ชิวฺหาย รเส สายิตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก กาเยน โผฏฺฐพฺเพ ผุสิตุํ; มยมฺปิ สกฺกตา ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติฯ อยญฺจรหิ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา โหติ วิปฺปกตาฯ

อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เยน กเรริมณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?

‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ กเรริมณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ –

‘ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา รูเป ปสฺสิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก โสเตน สทฺเท โสตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ฆาเนน คนฺเธ ฆายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ชิวฺหาย รเส สายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก กาเยน โผฏฺฐพฺเพ ผุสิตุํฯ ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ปิณฺฑาย จรติฯ หนฺทาวุโส, มยมฺปิ ปิณฺฑปาติกา โหมฯ มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา รูเป ปสฺสิตุํ…เป.… กาเยน โผฏฺฐพฺเพ ผุสิตุํฯ มยมฺปิ สกฺกตา ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’ติฯ อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติฯ

‘‘น ขฺเวตํ, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ ยํ ตุมฺเห เอวรูปิํ กถํ กเถยฺยาถฯ สนฺนิปติตานํ โว, ภิกฺขเว, ทฺวยํ กรณียํ – ธมฺมี วา กถา อริโย วา ตุณฺหีภาโว’’ติฯ

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ปิณฺฑปาติกสฺส ภิกฺขุโน,

อตฺตภรสฺส อนญฺญโปสิโน;

เทวา ปิหยนฺติ ตาทิโน,

โน เจ สทฺทสิโลกนิสฺสิโต’’ติฯ อฏฺฐมํ;

9. สิปฺปสุตฺตํ

[29] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โก นุ โข, อาวุโส, สิปฺปํ ชานาติ? โก กิํ สิปฺปํ สิกฺขิ? กตรํ สิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ?

ตตฺเถกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘หตฺถิสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘อสฺสสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘รถสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘ธนุสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘ถรุสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘มุทฺทาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘คณนาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘สงฺขานสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘เลขาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘กาเวยฺยสิปฺปํ [กาพฺยสิปฺปํ (สฺยา.)] สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘โลกายตสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘ขตฺตวิชฺชาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติฯ อยญฺจรหิ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา โหติ วิปฺปกตาฯ

อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เยน มณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ