เมนู

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตปญฺโญ โหติ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘ราโค เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธมฺโม’ติ ปชานาติ, โทโส เม ปหีโน…เป.… ‘โมโห เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธมฺโม’ติ ปชานาติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตปญฺโญ โหติฯ

‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อตีตมทฺธานํ อริยา อริยาวาเส อาวสิํสุ, สพฺเพ เต อิเมว ทส อริยาวาเส อาวสิํสุ; เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อนาคตมทฺธานํ อริยา อริยาวาเส อาวสิสฺสนฺติ, สพฺเพ เต อิเมว ทส อริยาวาเส อาวสิสฺสนฺติ; เย หิ [เยปิ (?)] เกจิ, ภิกฺขเว , เอตรหิ อริยา อริยาวาเส อาวสนฺติ, สพฺเพ เต อิเมว ทส อริยาวาเส อาวสนฺติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อริยาวาสา, เย อริยา อาวสิํสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา’’ติฯ ทสมํฯ

นาถวคฺโค ทุติโยฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

เสนาสนญฺจ ปญฺจงฺคํ, สํโยชนาขิเลน จ;

อปฺปมาโท อาหุเนยฺโย, ทฺเว นาถา ทฺเว อริยาวาสาติฯ

3. มหาวคฺโค

1. สีหนาทสุตฺตํ

[21] ‘‘สีโห , ภิกฺขเว, มิคราชา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขมติฯ อาสยา นิกฺขมิตฺวา วิชมฺภติฯ วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสํ [จตุทฺทิสา (สฺยา. ก.) อ. นิ. 6.64] อนุวิโลเกติฯ สมนฺตา จตุทฺทิสํ [จตุทฺทิสา (สฺยา. ก.) อ. นิ. 6.64] อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทติฯ ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกมติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘มาหํ ขุทฺทเก ปาเณ วิสมคเต สงฺฆาตํ อาปาเทสิ’นฺติ!

‘‘‘สีโห’ติ, โข ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ ยํ โข, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, อิทมสฺส โหติ สีหนาทสฺมิํฯ

[ม. นิ. 1.148; วิภ. 760; ปฏิ. ม. 2.44] ‘‘ทสยิมานิ , ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ ฐานํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ กตมานิ ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ฐานญฺจ ฐานโต อฏฺฐานญฺจ อฏฺฐานโต ยถาภูตํ ปชานาติฯ ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ฐานญฺจ ฐานโต อฏฺฐานญฺจ อฏฺฐานโต ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ ฐานํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ ฐานโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ ฐานโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ ฐานํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต สพฺพตฺถคามินิํ ปฏิปทํ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ยมฺปิ, ภิกฺขเว , ตถาคโต สพฺพตฺถคามินิํ ปฏิปทํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ ฐานํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อเนกธาตุํ นานาธาตุํ โลกํ [อเนกธาตุนานาธาตุโลกํ (สี. ก.)] ยถาภูตํ ปชานาติฯ ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อเนกธาตุํ นานาธาตุํ โลกํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ…เป.… พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตํ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ…เป.… พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ยถาภูตํ ปชานาติฯ

ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ…เป.… พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺฐานํ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ยมฺปิ…เป.… ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ…เป.… พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาติํ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปญฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ติํสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปญฺญาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป, ‘อมุตฺราสิํ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทิํ; ตตฺราปาสิํ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ, อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติฯ ยมฺปิ ภิกฺขเว, ตถาคโต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาติํ ทฺเวปิ ชาติโย…เป.… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ ฐานํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา; อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺฐิกา สมฺมาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติฯ อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติฯ ยมฺปิ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป.… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ ฐานํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ ฐานํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติฯ

‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส ตถาคตสฺส ตถาคตพลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ ฐานํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติฯ ปฐมํฯ

2. อธิวุตฺติปทสุตฺตํ

[22] อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘เย เต, อานนฺท, ธมฺมา เตสํ เตสํ อธิวุตฺติปทานํ [อธิมุตฺติปทานํ (ก.)] อภิญฺญา สจฺฉิกิริยาย สํวตฺตนฺติ, วิสารโท อหํ, อานนฺท, ตตฺถ ปฏิชานามิฯ