‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรญฺญวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ , โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติฯ
‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม สญฺญาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ
‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรญฺญวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, อนุปฺปตฺตสทตฺถา จ วิหรนฺติฯ อิงฺฆ ตฺวํ, อุปาลิ, สงฺเฆ วิหราหิฯ สงฺเฆ เต วิหรโต ผาสุ ภวิสฺสตี’’ติฯ นวมํฯ
10. อภพฺพสุตฺตํ
[100] ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํฯ กตเม ทส? ราคํ, โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปฬาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ, มานํ – อิเม โข ภิกฺขเว, ทส ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํฯ
‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํฯ กตเม ทส? ราคํ, โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปฬาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ, มานํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติฯ ทสมํฯ
อุปาลิวคฺโค ปญฺจโมฯ
ตสฺสุทฺทานํ –
กามโภคี ภยํ ทิฏฺฐิ, วชฺชิยมาหิตุตฺติยา;
โกกนุโท อาหุเนยฺโย, เถโร อุปาลิ อภพฺโพติฯ
ทุติยปณฺณาสกํ สมตฺตํฯ
3. ตติยปณฺณาสกํ