เมนู

อถ โข เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ สมนฺตโต วาจายสนฺนิโตทเกน สญฺชมฺภริมกํสูติฯ จตุตฺถํฯ

5. เกสมุตฺติสุตฺตํ

[66] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ เยน เกสมุตฺตํ [เกสปุตฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นาม กาลามานํ นิคโม ตทวสริฯ อสฺโสสุํ โข เกสมุตฺติยา กาลามา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต เกสมุตฺตํ อนุปฺปตฺโตฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา…เป.… สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’’ติฯ

อถ โข เกสมุตฺติยา กาลามา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ, อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิํสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ, อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ, อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ, อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต เกสมุตฺติยา กาลามา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –

‘‘สนฺติ, ภนฺเต, เอเก สมณพฺราหฺมณา เกสมุตฺตํ อาคจฺฉนฺติฯ เต สกํเยว วาทํ ทีเปนฺติ โชเตนฺติ, ปรปฺปวาทํ ปน ขุํเสนฺติ วมฺเภนฺติ ปริภวนฺติ โอมกฺขิํ [โอปปกฺขิํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), โอมกฺขิกํ (ก.)] กโรนฺติฯ อปเรปิ, ภนฺเต, เอเก สมณพฺราหฺมณา เกสมุตฺตํ อาคจฺฉนฺติ ฯ เตปิ สกํเยว วาทํ ทีเปนฺติ โชเตนฺติ, ปรปฺปวาทํ ปน ขุํเสนฺติ วมฺเภนฺติ ปริภวนฺติ โอมกฺขิํ กโรนฺติฯ เตสํ โน, ภนฺเต , อมฺหากํ โหเตว กงฺขา โหติ วิจิกิจฺฉา – ‘โก สุ นาม อิเมสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ อาห, โก มุสา’’’ติ? ‘‘อลญฺหิ โว, กาลามา, กงฺขิตุํ อลํ วิจิกิจฺฉิตุํฯ กงฺขนีเยว ปน [กงฺขนีเยว จ ปน (สํยุตฺตนิกาเย)] โว ฐาเน วิจิกิจฺฉา อุปฺปนฺนา’’ฯ

‘‘เอถ ตุมฺเห, กาลามา, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน , มา ทิฏฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติฯ ยทา ตุมฺเห, กาลามา, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิญฺญุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา [สมาทิณฺณา (ก.)] อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’’’ติ, อถ ตุมฺเห, กาลามา, ปชเหยฺยาถฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, กาลามา, โลโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ?

‘‘อหิตาย, ภนฺเต’’ฯ

‘‘ลุทฺโธ ปนายํ, กาลามา, ปุริสปุคฺคโล โลเภน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย [ตทตฺถาย (ก.)] สมาทเปติ, ยํ ส [ยํ ตสฺส (ก.) อนนฺตรสุตฺเต ปน ‘‘ยํ’ ส’’ อิตฺเวว สพฺพตฺถปิ ทิสฺสติ] โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติฯ

‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, กาลามา, โทโส ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ?

‘‘อหิตาย, ภนฺเต’’ฯ

‘‘ทุฏฺโฐ ปนายํ, กาลามา, ปุริสปุคฺคโล โทเสน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ [หนฺติ (สี. ปี.)], อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติฯ

‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, กาลามา, โมโห ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ?

‘‘อหิตาย, ภนฺเต’’ฯ

‘‘มูฬฺโห ปนายํ, กาลามา, ปุริสปุคฺคโล โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติฯ

‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, กาลามา, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ?

‘‘อกุสลา, ภนฺเต’’ฯ

‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ?

‘‘สาวชฺชา, ภนฺเต’’ฯ

‘‘วิญฺญุครหิตา วา วิญฺญุปฺปสตฺถา วา’’ติ?

‘‘วิญฺญุครหิตา, ภนฺเต’’ฯ

‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, โน วา? กถํ วา [กถํ วา โว (?)] เอตฺถ โหตี’’ติ ?

‘‘สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติฯ เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติฯ

‘‘อิติ โข, กาลามา, ยํ ตํ อโวจุมฺหา [อโวจุมฺห (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อ. นิ. 4.193] – ‘เอถ ตุมฺเห, กาลามา! มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติฯ ยทา ตุมฺเห กาลามา อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิญฺญุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติ, อถ ตุมฺเห, กาลามา, ปชเหยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

‘‘เอถ ตุมฺเห, กาลามา, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติฯ ยทา ตุมฺเห, กาลามา, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิญฺญุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุมฺเห, กาลามา, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, กาลามา, อโลโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ?

‘‘หิตาย, ภนฺเต’’ฯ

‘‘อลุทฺโธ ปนายํ, กาลามา, ปุริสปุคฺคโล โลเภน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิตฺโต เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ, น ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ , ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ

‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, กาลามา, อโทโส ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ…เป.… อโมโห ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ…เป.… หิตาย สุขายา’’ติฯ

‘‘เอวํ ภนฺเต’’

‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, กาลามา, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ?

‘‘กุสลา , ภนฺเต’’ฯ

‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ?

‘‘อนวชฺชา, ภนฺเต’’ฯ

‘‘วิญฺญุครหิตา วา วิญฺญุปฺปสตฺถา วา’’ติ?

‘‘วิญฺญุปฺปสตฺถา, ภนฺเต’’ฯ

‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ โน วา? กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ?

‘‘สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติฯ เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติฯ

‘‘อิติ โข, กาลามา, ยํ ตํ อโวจุมฺหา – ‘เอถ ตุมฺเห, กาลามา! มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติฯ ยทา ตุมฺเห, กาลามา, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิญฺญุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตีติ, อถ ตุมฺเห, กาลามา, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

‘‘ส โข โส [โย โข (ก.)], กาลามา, อริยสาวโก เอวํ วิคตาภิชฺโฌ วิคตพฺยาปาโท อสมฺมูฬฺโห สมฺปชาโน ปติสฺสโต [สโต (ก.)] เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ, อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเฌน ผริตฺวา วิหรติฯ กรุณาสหคเตน เจตสา…เป.… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป.… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ , ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ, อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเฌน ผริตฺวา วิหรติฯ

‘‘ส [สเจ (ก.)] โข โส, กาลามา, อริยสาวโก เอวํ อเวรจิตฺโต เอวํ อพฺยาปชฺฌจิตฺโต เอวํ อสํกิลิฏฺฐจิตฺโต เอวํ วิสุทฺธจิตฺโตฯ ตสฺส ทิฏฺเฐว ธมฺเม จตฺตาโร อสฺสาสา อธิคตา โหนฺติฯ ‘สเจ โข ปน อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ [สุกฏทุกฺกฏานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อถาหํ [ฐานมหํ (สี. ปี.), ฐานเมตํ เยนาหํ (สฺยา. กํ.)] กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามี’ติ, อยมสฺส ปฐโม อสฺสาโส อธิคโต โหติฯ

‘‘‘สเจ โข ปน นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อถาหํ [อิธาหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ทิฏฺเฐว ธมฺเม อเวรํ อพฺยาปชฺฌํ อนีฆํ สุขิํ [สุขํ (สี.), สุขี (สฺยา. กํ.)] อตฺตานํ ปริหรามี’ติ, อยมสฺส ทุติโย อสฺสาโส อธิคโต โหติฯ

‘‘‘สเจ โข ปน กโรโต กรียติ ปาปํ, น โข ปนาหํ กสฺสจิ ปาปํ เจเตมิฯ อกโรนฺตํ โข ปน มํ ปาปกมฺมํ กุโต ทุกฺขํ ผุสิสฺสตี’ติ, อยมสฺส ตติโย อสฺสาโส อธิคโต โหติฯ

‘‘‘สเจ โข ปน กโรโต น กรียติ ปาปํ, อถาหํ อุภเยเนว วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามี’ติ, อยมสฺส จตุตฺโถ อสฺสาโส อธิคโต โหติฯ

‘‘ส โข โส, กาลามา, อริยสาวโก เอวํ อเวรจิตฺโต เอวํ อพฺยาปชฺฌจิตฺโต เอวํ อสํกิลิฏฺฐจิตฺโต เอวํ วิสุทฺธจิตฺโตฯ ตสฺส ทิฏฺเฐว ธมฺเม อิเม จตฺตาโร อสฺสาสา อธิคตา โหนฺตี’’ติฯ

‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต! ส โข โส, ภนฺเต, อริยสาวโก เอวํ อเวรจิตฺโต เอวํ อพฺยาปชฺฌจิตฺโต เอวํ อสํกิลิฏฺฐจิตฺโต เอวํ วิสุทฺธจิตฺโตฯ ตสฺส ทิฏฺเฐว ธมฺเม จตฺตาโร อสฺสาสา อธิคตา โหนฺติฯ ‘สเจ โข ปน อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อถาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามี’ติ, อยมสฺส ปฐโม อสฺสาโส อธิคโต โหติฯ

‘‘‘สเจ โข ปน นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อถาหํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม อเวรํ อพฺยาปชฺฌํ อนีฆํ สุขิํ อตฺตานํ ปริหรามี’ติ, อยมสฺส ทุติโย อสฺสาโส อธิคโต โหติฯ

‘‘สเจ โข ปน กโรโต กรียติ ปาปํ, น โข ปนาหํ – กสฺสจิ ปาปํ เจเตมิ, อกโรนฺตํ โข ปน มํ ปาปกมฺมํ กุโต ทุกฺขํ ผุสิสฺสตี’ติ, อยมสฺส ตติโย อสฺสาโส อธิคโต โหติฯ

‘‘‘สเจ โข ปน กโรโต น กรียติ ปาปํ, อถาหํ อุภเยเนว วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามี’ติ, อยมสฺส จตุตฺโถ อสฺสาโส อธิคโต โหติฯ

‘‘ส โข โส, ภนฺเต, อริยสาวโก เอวํ อเวรจิตฺโต เอวํ อพฺยาปชฺฌจิตฺโต เอวํ อสํกิลิฏฺฐจิตฺโต เอวํ วิสุทฺธจิตฺโตฯ ตสฺส ทิฏฺเฐว ธมฺเม อิเม จตฺตาโร อสฺสาสา อธิคตา โหนฺติฯ

‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป.… เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสเก โน, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติฯ ปญฺจมํฯ

6. สาฬฺหสุตฺตํ

[67] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา นนฺทโก สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเทฯ อถ โข สาฬฺโห จ มิคารนตฺตา สาโณ จ เสขุนิยนตฺตา [โรหโณ จ เปขุณิยนตฺตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เยนายสฺมา นนฺทโก เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สาฬฺหํ มิคารนตฺตารํ อายสฺมา นนฺทโก เอตทโวจ –

‘‘เอถ ตุมฺเห, สาฬฺหา, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติฯ ยทา ตุมฺเห, สาฬฺหา , อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิญฺญุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุมฺเห สาฬฺหา ปชเหยฺยาถฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, สาฬฺหา, อตฺถิ โลโภ’’ติ?

‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ

‘‘อภิชฺฌาติ โข อหํ, สาฬฺหา, เอตมตฺถํ วทามิฯ ลุทฺโธ โข อยํ, สาฬฺหา, อภิชฺฌาลุ ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติฯ

‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ