เมนู

6. ปโลกสุตฺตํ

[57] อถ โข อญฺญตโร พฺราหฺมณมหาสาโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป.… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมณมหาสาโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, ปุพฺพกานํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘ปุพฺเพ สุทํ [ปุพฺพสฺสุทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อยํ โลโก อวีจิ มญฺเญ ผุโฏ อโหสิ มนุสฺเสหิ, กุกฺกุฏสํปาติกา คามนิคมราชธานิโย’ติฯ โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยเนตรหิ มนุสฺสานํ ขโย โหติ, ตนุตฺตํ ปญฺญายติ, คามาปิ อคามา โหนฺติ , นิคมาปิ อนิคมา โหนฺติ, นคราปิ อนครา โหนฺติ, ชนปทาปิ อชนปทา โหนฺตี’’ติ?

‘‘เอตรหิ, พฺราหฺมณ, มนุสฺสา อธมฺมราครตฺตา วิสมโลภาภิภูตา มิจฺฉาธมฺมปเรตาฯ เต อธมฺมราครตฺตา วิสมโลภาภิภูตา มิจฺฉาธมฺมปเรตา ติณฺหานิ สตฺถานิ คเหตฺวา อญฺญมญฺญํ [อญฺญมญฺญสฺส (สพฺพตฺถ)] ชีวิตา โวโรเปนฺติ, เตน พหู มนุสฺสา กาลํ กโรนฺติฯ อยมฺปิ โข , พฺราหฺมณ, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยเนตรหิ มนุสฺสานํ ขโย โหติ, ตนุตฺตํ ปญฺญายติ, คามาปิ อคามา โหนฺติ, นิคมาปิ อนิคมา โหนฺติ, นคราปิ อนครา โหนฺติ, ชนปทาปิ อชนปทา โหนฺติฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, เอตรหิ มนุสฺสา อธมฺมราครตฺตา วิสมโลภาภิภูตา มิจฺฉาธมฺมปเรตาฯ เตสํ อธมฺมราครตฺตานํ วิสมโลภาภิภูตานํ มิจฺฉาธมฺมปเรตานํ เทโว น สมฺมาธารํ อนุปฺปเวจฺฉติฯ เตน ทุพฺภิกฺขํ โหติ ทุสฺสสฺสํ เสตฏฺฐิกํ สลากาวุตฺตํฯ เตน พหู มนุสฺสา กาลํ กโรนฺติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยเนตรหิ มนุสฺสานํ ขโย โหติ, ตนุตฺตํ ปญฺญายติ, คามาปิ อคามา โหนฺติ, นิคมาปิ อนิคมา โหนฺติ, นคราปิ อนครา โหนฺติ, ชนปทาปิ อชนปทา โหนฺติฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, เอตรหิ มนุสฺสา อธมฺมราครตฺตา วิสมโลภาภิภูตา มิจฺฉาธมฺมปเรตาฯ เตสํ อธมฺมราครตฺตานํ วิสมโลภาภิภูตานํ มิจฺฉาธมฺมปเรตานํ ยกฺขา วาเฬ อมนุสฺเส โอสฺสชฺชนฺติ [โอสฺสชนฺติ (สี.)], เตน พหู มนุสฺสา กาลํ กโรนฺติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยเนตรหิ มนุสฺสานํ ขโย โหติ, ตนุตฺตํ ปญฺญายติ, คามาปิ อคามา โหนฺติ, นิคมาปิ อนิคมา โหนฺติ, นคราปิ อนครา โหนฺติ, ชนปทาปิ อชนปทา โหนฺตี’’ติฯ

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ ฉฏฺฐํฯ

7. วจฺฉโคตฺตสุตฺตํ

[58] อถ โข วจฺฉโคตฺโต [วจฺฉปุตฺโต (ก.)] ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, สมโณ โคตโม เอวมาห – ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ , นาญฺเญสํ ทานํ ทาตพฺพํ; มยฺหเมว สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ, นาญฺเญสํ สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ; มยฺหเมว ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาญฺเญสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ; มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาญฺเญสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติฯ เย เต, โภ โคตม, เอวมาหํสุ ‘สมโณ โคตโม เอวมาห มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ, นาญฺเญสํ ทานํ ทาตพฺพํฯ มยฺหเมว สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ, นาญฺเญสํ สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํฯ มยฺหเมว ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาญฺเญสํ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาญฺเญสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติฯ กจฺจิ เต โภโต โคตมสฺส วุตฺตวาทิโน จ ภวนฺตํ โคตมํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุปาโต [วาทานุวาโท (ก.)] คารยฺหํ ฐานํ อาคจฺฉติ? อนพฺภกฺขาตุกามา หิ มยํ ภวนฺตํ โคตม’’นฺติฯ

‘‘เย เต, วจฺฉ, เอวมาหํสุ – ‘สมโณ โคตโม เอวมาห – มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ…เป.… นาญฺเญสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ น เม เต วุตฺตวาทิโนฯ อพฺภาจิกฺขนฺติ จ ปน มํ [จ ปน มํ เต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อสตา อภูเตนฯ โย โข, วจฺฉ, ปรํ ทานํ ททนฺตํ วาเรติ โส ติณฺณํ อนฺตรายกโร โหติ, ติณฺณํ ปาริปนฺถิโกฯ กตเมสํ ติณฺณํ? ทายกสฺส ปุญฺญนฺตรายกโร โหติ, ปฏิคฺคาหกานํ ลาภนฺตรายกโร โหติ, ปุพฺเพว โข ปนสฺส อตฺตา ขโต จ โหติ อุปหโต จฯ โย โข, วจฺฉ, ปรํ ทานํ ททนฺตํ วาเรติ โส อิเมสํ ติณฺณํ อนฺตรายกโร โหติ, ติณฺณํ ปาริปนฺถิโกฯ