เมนู

โมเห ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ ฯ เอวํ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺฐิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญฺญูหี’’ติฯ

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ ตติยํฯ

4. ปริพฺพาชกสุตฺตํ

[55] อถ โข อญฺญตโร พฺราหฺมณปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา…เป.… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมณปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สนฺทิฏฺฐิโก ธมฺโม สนฺทิฏฺฐิโก ธมฺโม’ติ, โภ โคตม, วุจฺจติฯ กิตฺตาวตา นุ โข, โภ โคตม, สนฺทิฏฺฐิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญฺญูหี’’ติ?

‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติฯ ราเค ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติฯ

‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติฯ ราเค ปหีเน เนว กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, น วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, น มนสา ทุจฺจริตํ จรติฯ

‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ

ราเค ปหีเน อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ , ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺฐิโก ธมฺโม โหติ…เป.…ฯ

‘‘ทุฏฺโฐ โข, พฺราหฺมณ, โทเสน…เป.… มูฬฺโห โข, พฺราหฺมณ, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติฯ โมเห ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติฯ

‘‘มูฬฺโห โข, พฺราหฺมณ, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต, กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติฯ โมเห ปหีเน เนว กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, น วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, น มนสา ทุจฺจริตํ จรติฯ

‘‘มูฬฺโห โข, พฺราหฺมณ, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ , อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ โมเห ปหีเน อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺฐิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญฺญูหี’’ติฯ

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ จตุตฺถํฯ

5. นิพฺพุตสุตฺตํ

[56] อถ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สนฺทิฏฺฐิกํ นิพฺพานํ สนฺทิฏฺฐิกํ นิพฺพาน’นฺติ, โภ โคตม, วุจฺจติฯ กิตฺตาวตา นุ โข, โภ โคตม, สนฺทิฏฺฐิกํ นิพฺพานํ โหติ อกาลิกํ เอหิปสฺสิกํ โอปเนยฺยิกํ ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพํ วิญฺญูหี’’ติ?