เมนู

2. อธิกรณวคฺโค

[11] ‘‘ทฺเวมานิ , ภิกฺขเว, พลานิฯ กตมานิ ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลญฺจ ภาวนาพลญฺจฯ กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจา’ติฯ โส อิติ ปฏิสงฺขาย กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํฯ

‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ [ยทิทํ (สี.)] ภาวนาพลํ เสขานเมตํ [เสขเมตํ (สี. สฺยา. กํ.)] พลํฯ เสขญฺหิ โส, ภิกฺขเว, พลํ อาคมฺม ราคํ ปชหติ, โทสํ ปชหติ, โมหํ ปชหติฯ ราคํ ปหาย, โทสํ ปหาย, โมหํ ปหาย ยํ อกุสลํ น ตํ กโรติ, ยํ ปาปํ น ตํ เสวติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พลานี’’ติฯ

[12] ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, พลานิฯ กตมานิ ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลญฺจ ภาวนาพลญฺจฯ กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจา’ติฯ โส อิติ ปฏิสงฺขาย กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํฯ

‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสคฺคปริณามิํ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสคฺคปริณามิํ ฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พลานี’’ติฯ

[13] ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, พลานิฯ กตมานิ ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลญฺจ ภาวนาพลญฺจฯ กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ? อิธ, ภิกฺขเว , เอกจฺโจ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, วจีทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, มโนทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจา’ติฯ โส อิติ ปฏิสงฺขาย กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํฯ

‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขญฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พลานี’’ติฯ

[14] ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนาฯ กตมา ทฺเว? สํขิตฺเตน จ วิตฺถาเรน จฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา’’ติฯ

[15] ‘‘ยสฺมิํ , ภิกฺขเว, อธิกรเณ อาปนฺโน [อาปตฺตาปนฺโน (ก.)] จ ภิกฺขุ โจทโก จ ภิกฺขุ น สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ ตสฺเมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฏิกงฺขํ ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ น ผาสุํ [น ผาสุ (ก.)] วิหริสฺสนฺตีติ [วิหริสฺสนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ก.)]ฯ ยสฺมิญฺจ โข, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อาปนฺโน จ ภิกฺขุ โจทโก จ ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ ตสฺเมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฏิกงฺขํ น ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ ผาสุํ วิหริสฺสนฺตีติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, อาปนฺโน ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ? อิธ, ภิกฺขเว, อาปนฺโน ภิกฺขุ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข อกุสลํ อาปนฺโน กญฺจิเทว [กิญฺจิเทว (ก.)] เทสํ กาเยนฯ มํ โส [ตสฺมา มํ โส (สี. สฺยา.)] ภิกฺขุ อทฺทส อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิญฺจิเทว เทสํ กาเยนฯ โน เจ อหํ อกุสลํ อาปชฺเชยฺยํ กิญฺจิเทว เทสํ กาเยน, น มํ โส ภิกฺขุ ปสฺเสยฺย อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิญฺจิเทว เทสํ กาเยนฯ ยสฺมา จ โข, อหํ อกุสลํ อาปนฺโน กิญฺจิเทว เทสํ กาเยน, ตสฺมา มํ โส ภิกฺขุ อทฺทส อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิญฺจิเทว เทสํ กาเยนฯ ทิสฺวา จ ปน มํ โส ภิกฺขุ อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิญฺจิเทว เทสํ กาเยน อนตฺตมโน อโหสิฯ อนตฺตมโน สมาโน อนตฺตมนวจนํ [อนตฺตมนวาจํ (ก.)] มํ โส ภิกฺขุ อวจฯ อนตฺตมนวจนาหํ [อนตฺตมนวาจํ นาหํ (ก.)] เตน ภิกฺขุนา วุตฺโต สมาโน อนตฺตมโน [อตฺตมโน (ก.)] อโหสิํฯ อนตฺตมโน สมาโน ปเรสํ อาโรเจสิํฯ อิติ มเมว ตตฺถ อจฺจโย อจฺจคมา สุงฺกทายกํว ภณฺฑสฺมินฺติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, อาปนฺโน ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, โจทโก ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ? อิธ, ภิกฺขเว, โจทโก ภิกฺขุ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘อยํ โข ภิกฺขุ อกุสลํ อาปนฺโน กิญฺจิเทว เทสํ กาเยนฯ อหํ อิมํ ภิกฺขุํ อทฺทสํ อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิญฺจิเทว เทสํ กาเยนฯ โน เจ อยํ ภิกฺขุ อกุสลํ อาปชฺเชยฺย กิญฺจิเทว เทสํ กาเยน, นาหํ อิมํ ภิกฺขุํ ปสฺเสยฺยํ อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิญฺจิเทว เทสํ กาเยนฯ ยสฺมา จ โข, อยํ ภิกฺขุ อกุสลํ อาปนฺโน กิญฺจิเทว เทสํ กาเยน, ตสฺมา อหํ อิมํ ภิกฺขุํ อทฺทสํ อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิญฺจิเทว เทสํ กาเยนฯ ทิสฺวา จ ปนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิญฺจิเทว เทสํ กาเยน อนตฺตมโน อโหสิํฯ

อนตฺตมโน สมาโน อนตฺตมนวจนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ อวจํฯ อนตฺตมนวจนายํ ภิกฺขุ มยา วุตฺโต สมาโน อนตฺตมโน อโหสิฯ อนตฺตมโน สมาโน ปเรสํ อาโรเจสิฯ อิติ มเมว ตตฺถ อจฺจโย อจฺจคมา สุงฺกทายกํว ภณฺฑสฺมินฺติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, โจทโก ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติฯ

‘‘ยสฺมิํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อาปนฺโน จ ภิกฺขุ โจทโก จ ภิกฺขุ น สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ ตสฺเมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฏิกงฺขํ ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ น ผาสุํ วิหริสฺสนฺตีติฯ ยสฺมิญฺจ โข, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อาปนฺโน จ ภิกฺขุ โจทโก จ ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ ตสฺเมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฏิกงฺขํ น ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ ผาสุ วิหริสฺสนฺตี’’ติฯ

[16] อถ โข อญฺญตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติฯ

‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘ธมฺมจริยาสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ , เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติฯ

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ [นิกุชฺชิตํ (ก.)] วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ, เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจ

อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

[17] อถ โข ชาณุสฺโสณิ [ชาณุโสณิ (ก.)] พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘กตตฺตา จ, พฺราหฺมณ, อกตตฺตา จฯ เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติฯ ‘‘โก ปน, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘กตตฺตา จ, พฺราหฺมณ, อกตตฺตา จฯ เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติฯ ‘‘น โข อหํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิฯ สาธุ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อหํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺย’’นฺติฯ ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิฯ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺจสฺส กายทุจฺจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ กายสุจริตํ; วจีทุจฺจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ วจีสุจริตํ; มโนทุจฺจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ มโนสุจริตํฯ เอวํ โข, พฺราหฺมณ, กตตฺตา จ อกตตฺตา จ เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติฯ อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺจสฺส กายสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ กายทุจฺจริตํ; วจีสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ วจีทุจฺจริตํ; มโนสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ มโนทุจฺจริตํฯ เอวํ โข, พฺราหฺมณ, กตตฺตา จ อกตตฺตา จ เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติฯ

‘‘อภิกฺกนฺตํ , โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

[18] อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘เอกํเสนาหํ, อานนฺท, อกรณียํ วทามิ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริต’’นฺติฯ ‘‘ยมิทํ, ภนฺเต, ภควตา เอกํเสน อกรณียํ อกฺขาตํ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ ตสฺมิํ อกรณีเย กยิรมาเน โก อาทีนโว ปาฏิกงฺโข’’ติ? ‘‘ยมิทํ, อานนฺท, มยา เอกํเสน อกรณียํ อกฺขาตํ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ ตสฺมิํ อกรณีเย กยิรมาเน อยํ อาทีนโว ปาฏิกงฺโข – อตฺตาปิ อตฺตานํ อุปวทติ, อนุวิจฺจ วิญฺญู ครหนฺติ, ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ ยมิทํ, อานนฺท, มยา เอกํเสน อกรณียํ อกฺขาตํ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ ตสฺมิํ อกรณีเย กยิรมาเน อยํ อาทีนโว ปาฏิกงฺโข’’ติฯ

‘‘เอกํเสนาหํ, อานนฺท, กรณียํ วทามิ กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริต’’นฺติฯ ‘‘ยมิทํ, ภนฺเต, ภควตา เอกํเสน กรณียํ อกฺขาตํ กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ ตสฺมิํ กรณีเย กยิรมาเน โก อานิสํโส ปาฏิกงฺโข’’ติ? ‘‘ยมิทํ, อานนฺท, มยา เอกํเสน กรณียํ อกฺขาตํ กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ ตสฺมิํ กรณีเย กยิรมาเน อยํ อานิสํโส ปาฏิกงฺโข – อตฺตาปิ อตฺตานํ น อุปวทติ, อนุวิจฺจ วิญฺญู ปสํสนฺติ, กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ ยมิทํ, อานนฺท, มยา เอกํเสน กรณียํ อกฺขาตํ กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ ตสฺมิํ กรณีเย กยิรมาเน อยํ อานิสํโส ปาฏิกงฺโข’’ติฯ

[19] ‘‘อกุสลํ, ภิกฺขเว, ปชหถฯ สกฺกา, ภิกฺขเว, อกุสลํ ปชหิตุํฯ โน เจทํ [โน เจตํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.) สํ. นิ. 3.28 ปสฺสิตพฺพํ], ภิกฺขเว, สกฺกา อภวิสฺส อกุสลํ ปชหิตุํ, นาหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘อกุสลํ, ภิกฺขเว, ปชหถา’ติฯ

ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, สกฺกา อกุสลํ ปชหิตุํ ตสฺมาหํ เอวํ วทามิ – ‘อกุสลํ, ภิกฺขเว, ปชหถา’ติฯ อกุสลญฺจ หิทํ, ภิกฺขเว [อกุสลํ ภิกฺขเว (ก.)], ปหีนํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺเตยฺย นาหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘อกุสลํ, ภิกฺขเว, ปชหถา’ติฯ ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อกุสลํ ปหีนํ หิตาย สุขาย สํวตฺตติ ตสฺมาหํ เอวํ วทามิ – ‘อกุสลํ , ภิกฺขเว, ปชหถา’’’ติฯ

‘‘กุสลํ , ภิกฺขเว, ภาเวถฯ สกฺกา, ภิกฺขเว, กุสลํ ภาเวตุํฯ โน เจทํ, ภิกฺขเว, สกฺกา อภวิสฺส กุสลํ ภาเวตุํ, นาหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘กุสลํ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’ติฯ ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, สกฺกา กุสลํ ภาเวตุํ ตสฺมาหํ เอวํ วทามิ – ‘กุสลํ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’ติฯ กุสลญฺจ หิทํ, ภิกฺขเว, ภาวิตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺเตยฺย, นาหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘กุสลํ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’ติฯ ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, กุสลํ ภาวิตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตติ ตสฺมาหํ เอวํ วทามิ – ‘กุสลํ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’’’ติฯ

[20] ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม ทฺเว? ทุนฺนิกฺขิตฺตญฺจ ปทพฺยญฺชนํ อตฺโถ จ ทุนฺนีโตฯ ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส , ภิกฺขเว, ปทพฺยญฺชนสฺส อตฺโถปิ ทุนฺนโย โหติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตนฺตี’’ติฯ

[21] ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ฐิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม ทฺเว? สุนิกฺขิตฺตญฺจ ปทพฺยญฺชนํ อตฺโถ จ สุนีโตฯ สุนิกฺขิตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ปทพฺยญฺชนสฺส อตฺโถปิ สุนโย โหติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ฐิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺตี’’ติฯ

อธิกรณวคฺโค ทุติโยฯ

3. พาลวคฺโค

[22] ‘‘‘ทฺเวเม , ภิกฺขเว, พาลาฯ กตเม ทฺเว? โย จ อจฺจยํ อจฺจยโต น ปสฺสติ, โย จ อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ นปฺปฏิคฺคณฺหาติ ฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พาลา’ติฯ ‘ทฺเวเม , ภิกฺขเว, ปณฺฑิตาฯ กตเม ทฺเว? โย จ อจฺจยํ อจฺจยโต ปสฺสติ, โย จ อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ ปฏิคฺคณฺหาติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปณฺฑิตา’’’ติฯ

[23] ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺติฯ กตเม ทฺเว? ทุฏฺโฐ วา โทสนฺตโร, สทฺโธ วา ทุคฺคหิเตน [ทุคฺคหีเตน (สี.)]ฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺตี’’ติฯ

[24] ‘‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺติฯ กตเม ทฺเว? โย จ อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, โย จ ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺตี’ติฯ ‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺติฯ กตเม ทฺเว? โย จ อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, โย จ ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺตี’’’ติฯ

[25] ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺติฯ กตเม ทฺเว? โย จ เนยฺยตฺถํ สุตฺตนฺตํ นีตตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ, โย จ นีตตฺถํ สุตฺตนฺตํ เนยฺยตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺตี’’ติฯ

[26] ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺติฯ กตเม ทฺเว? โย จ เนยฺยตฺถํ สุตฺตนฺตํ เนยฺยตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ , โย จ นีตตฺถํ สุตฺตนฺตํ นีตตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺตี’’ติฯ

[27] ‘‘ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺส , ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ คตีนํ อญฺญตรา คติ ปาฏิกงฺขา – นิรโย วา ติรจฺฉานโยนิ วาติฯ อปฺปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ คตีนํ อญฺญตรา คติ ปาฏิกงฺขา – เทวา วา มนุสฺสา วา’’ติฯ