เมนู

2. อธิกรณวคฺโค

[11] ‘‘ทฺเวมานิ , ภิกฺขเว, พลานิฯ กตมานิ ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลญฺจ ภาวนาพลญฺจฯ กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจา’ติฯ โส อิติ ปฏิสงฺขาย กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํฯ

‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ [ยทิทํ (สี.)] ภาวนาพลํ เสขานเมตํ [เสขเมตํ (สี. สฺยา. กํ.)] พลํฯ เสขญฺหิ โส, ภิกฺขเว, พลํ อาคมฺม ราคํ ปชหติ, โทสํ ปชหติ, โมหํ ปชหติฯ ราคํ ปหาย, โทสํ ปหาย, โมหํ ปหาย ยํ อกุสลํ น ตํ กโรติ, ยํ ปาปํ น ตํ เสวติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พลานี’’ติฯ

[12] ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, พลานิฯ กตมานิ ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลญฺจ ภาวนาพลญฺจฯ กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจา’ติฯ โส อิติ ปฏิสงฺขาย กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํฯ