ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
องฺคุตฺตรนิกาโย
ทุกนิปาตปาฬิ
1. ปฐมปณฺณาสกํ
1. กมฺมกรณวคฺโค
1. วชฺชสุตฺตํ
[1] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –
‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, วชฺชานิฯ กตมานิ ทฺเว? ทิฏฺฐธมฺมิกญฺจ วชฺชํ สมฺปรายิกญฺจ วชฺชํ ฯ
กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ทิฏฺฐธมฺมิกํ วชฺชํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปสฺสติ โจรํ อาคุจาริํ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา [วิวิธานิ กมฺมกรณานิ (ก.)] กาเรนฺเต; กสาหิปิ ตาเฬนฺเต, เวตฺเตหิปิ ตาเฬนฺเต, อทฺธทณฺฑเกหิปิ ตาเฬนฺเต, หตฺถมฺปิ ฉินฺทนฺเต, ปาทมฺปิ ฉินฺทนฺเต, หตฺถปาทมฺปิ ฉินฺทนฺเต, กณฺณมฺปิ ฉินฺทนฺเต, นาสมฺปิ ฉินฺทนฺเต, กณฺณนาสมฺปิ ฉินฺทนฺเต, พิลงฺคถาลิกมฺปิ กโรนฺเต, สงฺขมุณฺฑิกมฺปิ กโรนฺเต, ราหุมุขมฺปิ กโรนฺเต, โชติมาลิกมฺปิ กโรนฺเต, หตฺถปชฺโชติกมฺปิ กโรนฺเต, เอรกวตฺติกมฺปิ กโรนฺเต, จีรกวาสิกมฺปิ กโรนฺเต, เอเณยฺยกมฺปิ กโรนฺเต, พฬิสมํสิกมฺปิ กโรนฺเต, กหาปณิกมฺปิ กโรนฺเต, ขาราปตจฺฉิกมฺปิ [ขาราปฏิจฺฉกมฺปิ (สฺยา. กํ. ก.)] กโรนฺเต, ปลิฆปริวตฺติกมฺปิ กโรนฺเต, ปลาลปีฐกมฺปิ [ปลาลปิฏฺฐิกมฺปิ (สี.)] กโรนฺเต, ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิญฺจนฺเต, สุนเขหิปิ ขาทาเปนฺเต, ชีวนฺตมฺปิ สูเล อุตฺตาเสนฺเต, อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺเตฯ
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยถารูปานํ โข ปาปกานํ กมฺมานํ เหตุ โจรํ อาคุจาริํ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺติ; กสาหิปิ ตาเฬนฺติ, เวตฺเตหิปิ ตาเฬนฺติ, อทฺธทณฺฑเกหิปิ ตาเฬนฺติ, หตฺถมฺปิ ฉินฺทนฺติ, ปาทมฺปิ ฉินฺทนฺติ, หตฺถปาทมฺปิ ฉินฺทนฺติ, กณฺณมฺปิ ฉินฺทนฺติ, นาสมฺปิ ฉินฺทนฺติ, กณฺณนาสมฺปิ ฉินฺทนฺติ, พิลงฺคถาลิกมฺปิ กโรนฺติ, สงฺขมุณฺฑิกมฺปิ กโรนฺติ, ราหุมุขมฺปิ กโรนฺติ, โชติมาลิกมฺปิ กโรนฺติ, หตฺถปชฺโชติกมฺปิ กโรนฺติ, เอรกวตฺติกมฺปิ กโรนฺติ, จีรกวาสิกมฺปิ กโรนฺติ, เอเณยฺยกมฺปิ กโรนฺติ, พฬิสมํสิกมฺปิ กโรนฺติ, กหาปณิกมฺปิ กโรนฺติ, ขาราปตจฺฉิกมฺปิ กโรนฺติ, ปลิฆปริวตฺติกมฺปิ กโรนฺติ, ปลาลปีฐกมฺปิ กโรนฺติ, ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิญฺจนฺติ, สุนเขหิปิ ขาทาเปนฺติ, ชีวนฺตมฺปิ สูเล อุตฺตาเสนฺติ, อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺติฯ อหญฺเจว [อหญฺเจ (?)] โข ปน เอวรูปํ ปาปกมฺมํ กเรยฺยํ, มมฺปิ ราชาโน คเหตฺวา เอวรูปา วิวิธา กมฺมการณา กาเรยฺยุํ; กสาหิปิ ตาเฬยฺยุํ…เป.… อสินาปิ สีสํ ฉินฺเทยฺยุ’นฺติฯ โส ทิฏฺฐธมฺมิกสฺส วชฺชสฺส ภีโต น ปเรสํ ปาภตํ วิลุมฺปนฺโต จรติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทิฏฺฐธมฺมิกํ วชฺชํฯ
‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, สมฺปรายิกํ วชฺชํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปน ปาปโก ทุกฺโข วิปาโก อภิสมฺปรายํ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก ทุกฺโข วิปาโก อภิสมฺปรายํ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก ทุกฺโข วิปาโก อภิสมฺปรายํฯ อหญฺเจว โข ปน กาเยน ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, วาจาย ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ , มนสา ทุจฺจริตํ จเรยฺยํฯ กิญฺจ ตํ ยาหํ น กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส สมฺปรายิกสฺส วชฺชสฺส ภีโต กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺปรายิกํ วชฺชํฯ ‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว วชฺชานิฯ
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ทิฏฺฐธมฺมิกสฺส วชฺชสฺส ภายิสฺสาม, สมฺปรายิกสฺส วชฺชสฺส ภายิสฺสาม, วชฺชภีรุโน ภวิสฺสาม วชฺชภยทสฺสาวิโน’ติฯ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ วชฺชภีรุโน, ภิกฺขเว, วชฺชภยทสฺสาวิโน เอตํ ปาฏิกงฺขํ ยํ ปริมุจฺจิสฺสติ สพฺพวชฺเชหี’’ติฯ ปฐมํฯ
2. ปธานสุตฺตํ
[2] ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, ปธานานิ ทุรภิสมฺภวานิ โลกสฺมิํฯ กตมานิ ทฺเว? ยญฺจ คิหีนํ อคารํ อชฺฌาวสตํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทานตฺถํ ปธานํ, ยญฺจ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถํ ปธานํฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปธานานิ ทุรภิสมฺภวานิ โลกสฺมิํฯ
‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปธานานํ ยทิทํ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถํ ปธานํฯ ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถํ ปธานํ ปทหิสฺสามา’ติฯ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ ทุติยํฯ
3. ตปนียสุตฺตํ
[3] ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ตปนียาฯ กตเม ทฺเว? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส กายทุจฺจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ กายสุจริตํ; วจีทุจฺจริตํ กตํ โหติ; อกตํ โหติ วจีสุจริตํ; มโนทุจฺจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ มโนสุจริตํฯ โส ‘กายทุจฺจริตํ เม กต’นฺติ ตปฺปติ, ‘อกตํ เม กายสุจริต’นฺติ ตปฺปติ; ‘วจีทุจฺจริตํ เม กต’นฺติ ตปฺปติ, ‘อกตํ เม วจีสุจริต’นฺติ ตปฺปติ; ‘มโนทุจฺจริตํ เม กต’นฺติ ตปฺปติ , ‘อกตํ เม มโนสุจริต’นฺติ ตปฺปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา ตปนียา’’ติฯ ตติยํฯ
4. อตปนียสุตฺตํ
[4] ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อตปนียาฯ กตเม ทฺเว? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส กายสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ กายทุจฺจริตํ; วจีสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ วจีทุจฺจริตํ; มโนสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ มโนทุจฺจริตํฯ โส ‘กายสุจริตํ เม กต’นฺติ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม กายทุจฺจริต’นฺติ น ตปฺปติ; ‘วจีสุจริตํ เม กต’นฺติ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม วจีทุจฺจริต’นฺติ น ตปฺปติ; ‘มโนสุจริตํ เม กต’นฺติ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม มโนทุจฺจริต’นฺติ น ตปฺปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา อตปนียา’’ติฯ จตุตฺถํฯ
5. อุปญฺญาตสุตฺตํ
[5] ‘‘ทฺวินฺนาหํ , ภิกฺขเว, ธมฺมานํ อุปญฺญาสิํ – ยา จ อสนฺตุฏฺฐิตา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ยา จ อปฺปฏิวานิตา ปธานสฺมิํฯ อปฺปฏิวานี สุทาหํ, ภิกฺขเว, ปทหามิ – ‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ [นหารุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ อฏฺฐิ จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตํ, ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺฐานํ ภวิสฺสตี’ติฯ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, อปฺปมาทาธิคตา สมฺโพธิ, อปฺปมาทาธิคโต อนุตฺตโร โยคกฺเขโมฯ ตุมฺเห เจปิ, ภิกฺขเว, อปฺปฏิวานํ ปทเหยฺยาถ – ‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺฐิ จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตํ, ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺฐานํ ภวิสฺสตี’ติ, ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว, นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถฯ ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘อปฺปฏิวานํ ปทหิสฺสามฯ กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺฐิ จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตํ, ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺฐานํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ ปญฺจมํฯ
6. สํโยชนสุตฺตํ
[6] ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมาฯ กตเม ทฺเว? ยา จ สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิตา, ยา จ สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสุ นิพฺพิทานุปสฺสิตาฯ สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสี วิหรนฺโต ราคํ น ปชหติ, โทสํ น ปชหติ, โมหํ น ปชหติฯ ราคํ อปฺปหาย, โทสํ อปฺปหาย, โมหํ อปฺปหาย น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิฯ น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิฯ
‘‘สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ นิพฺพิทานุปสฺสี วิหรนฺโต ราคํ ปชหติ, โทสํ ปชหติ, โมหํ ปชหติฯ
ราคํ ปหาย, โทสํ ปหาย, โมหํ ปหาย, ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิฯ ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ
7. กณฺหสุตฺตํ
[7] ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา กณฺหาฯ กตเม ทฺเว? อหิริกญฺจ อโนตฺตปฺปญฺจฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา กณฺหา’’ติฯ สตฺตมํฯ
8. สุกฺกสุตฺตํ
[8] ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สุกฺกาฯ กตเม ทฺเว? หิรี [หิริ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ โอตฺตปฺปญฺจฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา สุกฺกา’’ติฯ อฏฺฐมํฯ
9. จริยสุตฺตํ
[9] ‘‘ทฺเวเม , ภิกฺขเว, ธมฺมา สุกฺกา โลกํ ปาเลนฺติฯ กตเม ทฺเว? หิรี จ โอตฺตปฺปญฺจฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ น ปาเลยฺยุํ, นยิธ ปญฺญาเยถ มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วาฯ สมฺเภทํ โลโก อคมิสฺส, ยถา อเชฬกา กุกฺกุฏสูกรา โสณสิงฺคาลา [โสณสิคาลา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]ฯ ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อิเม ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ ตสฺมา ปญฺญายติ [ปญฺญายนฺติ (สี.)] มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา’’ติฯ นวมํฯ
10. วสฺสูปนายิกสุตฺตํ
[10] ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, วสฺสูปนายิกาฯ กตมา ทฺเว? ปุริมิกา จ ปจฺฉิมิกา จฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว วสฺสูปนายิกา’’ติฯ ทสมํฯ
กมฺมกรณวคฺโค ปฐโมฯ
ตสฺสุทฺทานํ –
วชฺชา ปธานา ทฺเว ตปนียา, อุปญฺญาเตน ปญฺจมํ;
สํโยชนญฺจ กณฺหญฺจ, สุกฺกํ จริยา วสฺสูปนายิเกน วคฺโคฯ
2. อธิกรณวคฺโค
[11] ‘‘ทฺเวมานิ , ภิกฺขเว, พลานิฯ กตมานิ ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลญฺจ ภาวนาพลญฺจฯ กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจา’ติฯ โส อิติ ปฏิสงฺขาย กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํฯ
‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ [ยทิทํ (สี.)] ภาวนาพลํ เสขานเมตํ [เสขเมตํ (สี. สฺยา. กํ.)] พลํฯ เสขญฺหิ โส, ภิกฺขเว, พลํ อาคมฺม ราคํ ปชหติ, โทสํ ปชหติ, โมหํ ปชหติฯ ราคํ ปหาย, โทสํ ปหาย, โมหํ ปหาย ยํ อกุสลํ น ตํ กโรติ, ยํ ปาปํ น ตํ เสวติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พลานี’’ติฯ
[12] ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, พลานิฯ กตมานิ ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลญฺจ ภาวนาพลญฺจฯ กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายญฺจา’ติฯ โส อิติ ปฏิสงฺขาย กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํฯ