อิทานิ กิมตฺถํ กโตติอาทีนํ ปญฺหานมตฺถํ ปกาสยิสฺสามฯ ตตฺถ กิมตฺถํ กโตติ เอตสฺส ปน ปญฺหสฺส อตฺโถ อาจริเยเนว ปกาสิโตฯ กถํ?
‘‘สุทุลฺลภํ ลภิตฺวาน, ปพฺพชฺชํ ชินสาสเน;
สีลาทิสงฺคหํ เขมํ, อุชุํ มคฺคํ วิสุทฺธิยาฯ
ยถาภูตํ อชานนฺตา, สุทฺธิกามาปิ เย อิธ;
วิสุทฺธิํ นาธิคจฺฉนฺติ, วายมนฺตาปิ โยคิโนฯ
เตสํ ปาโมชฺชกรณํ, สุวิสุทฺธวินิจฺฉยํ;
มหาวิหารวาสีนํ, เทสนานยนิสฺสิตํฯ
วิสุทฺธิมคฺคํ ภาสิสฺสํ, ตํ เม สกฺกจฺจ ภาสโต;
วิสุทฺธิกามา สพฺเพปิ, นิสามยถ สาธโว’’ติ [วิสุทฺธิ. 1.2]ฯ
ตสฺมา เอส วิสุทฺธิมคฺโค วิสุทฺธิสงฺขาตนิพฺพานกามานํ สาธุชนานํ สีลสมาธิปญฺญาสงฺขาตสฺส วิสุทฺธิมคฺคสฺส ยาถาวโต ชานนตฺถาย กโตติ ปธานปฺปโยชนวเสน เวทิตพฺโพฯ อปฺปธานปฺปโยชนวเสน ปน จตูสุ อาคมฏฺฐกถาสุ คนฺถสลฺลหุกภาวตฺถายปิ กโตติ เวทิตพฺโพฯ ตถา หิ วุตฺตํ อาคมฏฺฐกถาสุ –
‘‘มชฺเฌ วิสุทฺธิมคฺโค, เอส จตุนฺนมฺปิ อาคมานญฺหิ;
ฐตฺวา ปกาสยิสฺสติ, ตตฺถ ยถาภาสิตมตฺถํ;
อิจฺเจว เม กโต’’ติ [ที. นิ. อฏฺฐ. 1.คนฺถารมฺภกถา]ฯ
ตนฺนิสฺสโย
กิํ นิสฺสาย กโตติ เอตสฺสปิ ปญฺหสฺส อตฺโถ อาจริเยเนว ปกาสิโตฯ วุตฺตญฺหิ เอตฺถ คนฺถารมฺเภ –
‘‘มหาวิหารวาสีนํ, เทสนานยนิสฺสิต’’นฺติ [วิสุทฺธิ. 1.2]ฯ
ตถา นิคมเนปิ –
‘‘เตสํ สีลาทิเภทานํ, อตฺถานํ โย วินิจฺฉโย;
ปญฺจนฺนมฺปิ นิกายานํ, วุตฺโต อฏฺฐกถานเยฯ
สมาหริตฺวา ตํ สพฺพํ, เยภุยฺเยน สนิจฺฉโย;
สพฺพสงฺกรโทเสหิ, มุตฺโต ยสฺมา ปกาสิโต’’ติ [ที. นิ. อฏฺฐ. 1.คนฺถารมฺภกถา]ฯ