ยทิ หิ อาธุนิกา วา สีหฬิกภิกฺขู, โปราณา วา อาจริยอนุรุทฺธ-ธมฺมปาลตฺเถราทโย สมยนฺตรพาหุสจฺจวเสน อาจริยพุทฺธโฆเสน สมานา วา อุตฺตริตรา วา ภเวยฺยุํ, เต อาจริยพุทฺธโฆสตฺเถรสฺส อฏฺฐกถาหิ อนารทฺธจิตฺตา หุตฺวา ตโต สุนฺทรตรา ปริปุณฺณตรา จ อภินวฏฺฐกถาโย กเรยฺยุํ, น ปน เต ตถา กโรนฺติ, น เกวลํ น กโรนฺติเยว, อถ โข เตสํ เอโกปิ น เอวํ วทติ ‘‘อหํ พุทฺธโฆเสน พาหุสจฺจวเสน สมสโมติ วา อุตฺตริตโร’’ติ วา, อญฺญทตฺถุ เต อาจริยสฺส อฏฺฐกถาโยเยว สํวณฺเณนฺติ จ อุปตฺถมฺเภนฺติ จ, อาจริยฏฺฐาเน จ ฐเปนฺติฯ เตเนตํ ญายติ สพฺพถาปิ อยุตฺตวจนนฺติฯ
มหายานิกนยวิจารณา
[6] ปุน โส ตาวตฺตเกนาปิ อสนฺตุฏฺโฐ อาจริยํ อวมญฺญนฺโต เอวมาห – ‘‘มหายานนิกายสฺส ปธานาจริยภูตานํ อสฺส โฆส-นาคชฺชุนานํ นยํ วา, นามมตฺตมฺปิ วา เตสํ น ชานาติ มญฺเญ พุทฺธโฆโส’’ติฯ ตํ ปน อติวิย อธมฺมิกํ นิรตฺถกญฺจ นิคฺคหวจนมตฺตเมวฯ น หิ นิกายนฺตริกานํ วาทนยานํ อตฺตโน อฏฺฐกถายํ อปฺปกาสเนน โส เต น ชานาตีติ สกฺกา วตฺตุํฯ นนุ อาจริเยน อาคมฏฺฐกถาสุ คนฺถารมฺเภเยว –
‘‘สมยํ อวิโลเมนฺโต, เถรานํ เถรวํสปทีปานํ;
สุนิปุณวินิจฺฉยานํ, มหาวิหาเร นิวาสิน’’นฺติ จ,
อิธาปิ วิสุทฺธิมคฺเค –
‘‘มหาวิหารวาสีนํ, เทสนานยนิสฺสิตํ;
วิสุทฺธิมคฺคํ ภาสิสฺส’’นฺติ [วิสุทฺธิ. 1.2] จ,
‘‘ตสฺสา อตฺถสํวณฺณนํ กโรนฺเตน วิภชฺชวาทิมณฺฑลํ โอตริตฺวา อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตน สกสมยํ อโวกฺกมนฺเตน ปรสมยํ อนายูหนฺเตน สุตฺตํ อปฺปฏิพาหนฺเตน วินยํ อนุโลเมนฺเตน มหาปเทเส โอโลเกนฺเตน ธมฺมํ ทีเปนฺเตน อตฺถํ สงฺคาเหนฺเตน ตเมวตฺถํ ปุนราวตฺเตตฺวา อปเรหิปิ ปริยายนฺตเรหิ นิทฺทิสนฺเตน จ ยสฺมา อตฺถสํวณฺณนา กาตพฺพา โหตี’’ติ [วิสุทฺธิ. 2.581] จ,
‘‘สาสนํ ปนิทํ นานา-เทสนานยมณฺฑิตํ;
ปุพฺพาจริยมคฺโค จ, อพฺโพจฺฉินฺโน ปวตฺตติ;
ยสฺมา ตสฺมา ตทุภยํ, สนฺนิสฺสายตฺถวณฺณนํ;
อารภิสฺสามิ เอตสฺสา’’ติ [วิสุทฺธิ. 2.581] จ,