เมนู

ธมฺมุปตฺถทฺธ …เป.… อธิปฺปาโย, อญฺญถา ลทฺธิเยว น สิยาติ ภาโวฯ มคฺโคติ อุปาโย, การณนฺติ อตฺโถฯ ปกติจกฺขุมโต เอว หิ ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปชฺชติฯ กสฺมา? กสิณาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุญาณสฺส อุปฺปาทนํ, โส จ กสิณมณฺฑเล อุคฺคหนิมิตฺเตน วินา นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มํสจกฺขุปจฺจยตาทสฺสนตฺถเมว วุตฺต’’นฺติฯ เตนาติ ‘‘มคฺโค’’ติ วจเนนฯ รูปาวจรชฺฌานปจฺจเยนาติ รูปาวจรชฺฌาเนน ปจฺจยภูเตน อุปฺปนฺนานิ รูปาวจรชฺฌานจิตฺตสมุฏฺฐิตานิฯ ฌานกมฺมสมุฏฺฐิเตสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ ตสฺส เหสา ลทฺธิฯ

[374] เยน ทิพฺพจกฺขุโน ปญฺญาจกฺขุภาวสฺส อิจฺฉเนน ปฏิชานเนนฯ ตีณิ จกฺขูนิ มํสทิพฺพปญฺญาจกฺขูนิ จกฺขุนฺตรภาวํ วทโต ภเวยฺยุํ, ตสฺมา ตํ น อิจฺฉตีติ อตฺโถฯ

ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. ยถากมฺมูปคตญาณกถาวณฺณนา

[377] ทิพฺพจกฺขุปาทกตฺตา ‘‘ยถากมฺมูปคตญาณสฺส อุปนิสฺสเย ทิพฺพจกฺขุมฺหี’’ติ วุตฺตํ, น ยถากมฺมูปคตชานนกิจฺจเก ทิพฺพจกฺขุมฺหิ ตสฺส ตํกิจฺจกตาภาวโตฯ ยโต ยํ อนญฺญํ, ตมฺปิ ตโต อนญฺญเมวาติ อาห ‘‘อิมินา…เป.… ภวิตพฺพ’’นฺติฯ ตตฺถ อตฺถนฺตรภาวํ นิวาเรตีติ ทิพฺพจกฺขุญาณสฺส ปกฺขิกตฺตา ยถากมฺมูปคตญาณสฺส ตโต อตฺถนฺตรภาวํ นิวาเรติฯ ตสฺส หิ ตํ ปริภณฺฑญาณํฯ ทิพฺพจกฺขุสฺส ยถากมฺมูปคตญาณโต อตฺถนฺตรภาวํ น นิวาเรติ อตปฺปกฺขิกตฺตาติ อธิปฺปาโยฯ ทิพฺพจกฺขุสฺส ยถากมฺมูปคตญาณกิจฺจตา ปรวาทินา อิจฺฉิตา, น ยถากมฺมูปคตญาณสฺส ทิพฺพจกฺขุกิจฺจตาติ ตมตฺถํ ‘‘ยถากมฺมูปคตญาณเมว ทิพฺพจกฺขุ’’นฺติ เอตฺถ โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘เอว-สทฺโท จา’’ติอาทิมาหฯ

ยถากมฺมูปคตญาณกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

10. สํวรกถาวณฺณนา

[379] อาฏานาฏิยสุตฺเต ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, ยกฺขา เยภุยฺเยน ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรตา’’ติ (ที. นิ. 3.276, 286) อาคตตฺตา จาตุมหาราชิกานํ สํวราสํวรสพฺภาโว อวิวาทสิทฺโธฯ ยตฺถ ปน วิวาโท, ตเมว ทสฺเสนฺเตน ตาวติํสาทโย คหิตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘จาตุมหาราชิกาน’’นฺติ วุตฺตํฯ เอวํ สตีติ ยทิ ตาวติํเสสุ สํวราสํวโร นตฺถิ, เอวํ สนฺเตฯ สุราปานนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สุยฺยตี’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํฯ กถํ สุยฺยตีติ? วุตฺตญฺเหตํ กุมฺภชาตเก

‘‘ยํ เว ปิวิตฺวา ปุพฺพเทวา ปมตฺตา,

ติทิวา จุตา สสฺสติยา สมายา;

ตํ ตาทิสํ มชฺชมิมํ นิรตฺถํ,

ชานํ มหาราช กถํ ปิเวยฺยา’’ติฯ (ชา. 1.16.58);

ตตฺถ ปุพฺพเทวา นาม อสุราฯ เต หิ ตาวติํสานํ อุปฺปตฺติโต ปุพฺพเทวาติ ปญฺญายิํสุฯ ปมตฺตาติ สุราปาเนน ปมาทํ อาปนฺนาฯ ติทิวาติ มนุสฺสจาตุมหาราชิกโลเก อุปาทาย ตติยโลกภูตา เทวฏฺฐานา, นามเมว วา เอตํ ตสฺส เทวฏฺฐานสฺสฯ สสฺสติยาติ เกวลํ ทีฆายุกตํ สนฺธาย วทติฯ สมายา สห อตฺตโน อสุรมายาย, อสุรมนฺเตหิ สทฺธิํ จุตาติ อตฺโถฯ อฏฺฐกถายญฺจ วุตฺตํ ‘‘อาคนฺตุกเทวปุตฺตา อาคตาติ เนวาสิกา คนฺธปานํ สชฺชยิํสุฯ สกฺโก สกปริสาย สญฺญมทาสี’’ติฯ เตนาห ‘‘เตสํ สุราปานํ อสํวโร น โหตีติ วตฺตพฺพํ โหตี’’ติฯ เอตฺถ จ ตาวติํสานํ ปาตุภาวโต ปฏฺฐาย สุราปานมฺปิ ตตฺถ นาโหสิ, ปเคว ปาณาติปาตาทโยติ วิรมิตพฺพาภาวโต เอว ตาวติํสโต ปฏฺฐาย อุปริ เทวโลเกสุ สมาทานสมฺปตฺตวิรติวเสน ปุเรตพฺพา สํวรา น สนฺติ, โลกุตฺตรา ปน สนฺติเยวฯ ตถา เตหิ ปหาตพฺพา อสํวราฯ น หิ อปฺปหีนานุสยานํ มคฺควชฺฌา กิเลสา น สนฺตีติฯ

สํวรกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. จตุตฺถวคฺโค