เมนู

อุทฺเทสวารวณฺณนา

[225] ‘‘‘กิํวาที ภนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺโธ’ติ? ‘วิภชฺชวาที มหาราชา’’’ติ (ปารา. อฏฺฐ. 1.ตติยสงฺคีติกถา) โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน วุตฺตตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺธสาวกา วิภชฺชวาทิโนฯ เต หิ เวนยิกาทิภาวํ วิภชฺช วทนฺติ, จีวราทีนํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพภาวํ วา สสฺสตุจฺเฉทวาเท วา วิภชฺช วทนฺติ ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทีนํ ฐปนียานํ ฐปนโต ราคาทิกฺขยสฺส สสฺสตสฺส ราคาทิกายทุจฺจริตาทิอุจฺเฉทสฺส จ วจนโต, น ปน เอกํสพฺยากรณียาทโย ตโย ปญฺเห อปเนตฺวา วิภชฺชพฺยากรณียเมว วทนฺตีติฯ วิภชฺชวาทีนํ มณฺฑลํ สมูโห วิภชฺชวาทิมณฺฑลํ, วิภชฺชวาทิโน วา ภควโต ปริสา วิภชฺชวาทิมณฺฑลนฺติปิ วทนฺติฯ อาจริเยหิ วุตฺตอวิปรีตตฺถทีปเนน เต อนพฺภาจิกฺขนฺเตนฯ ‘‘อวิชฺชา ปุญฺญาเนญฺชาภิสงฺขารานํ เหตุปจฺจโย โหตี’’ติอาทิํ วทนฺโต กถาวตฺถุมฺหิ ปฏิกฺขิตฺเต ปุคฺคลวาทาทิเก จ วทนฺโต สกสมยํ โวกฺกมติ นาม, ตถา อโวกฺกมนฺเตนฯ ปรสมยํ โทสาโรปนพฺยาปารวิรเหน อนายูหนฺเตนฯ ‘‘อิทมฺปิ ยุตฺตํ คเหตพฺพ’’นฺติ ปรสมยํ อสมฺปิณฺเฑนฺเตนาติ เกจิ วทนฺติฯ

‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, ยถา ตเทวิทํ วิญฺญาณํ สนฺธาวติ สํสรติ อนญฺญ’’นฺติอาทิํ (ม. นิ. 1.396) วทนฺโต สุตฺตํ ปฏิพาหติ นาม, ตถา อปฺปฏิพาหนฺเตนฯ ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, ยถา เยเม อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา ภควตา, เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’’ติ (ม. นิ. 1.234; ปาจิ. 418, 429), ‘‘สุปินนฺเต กโต วีติกฺกโม อาปตฺติกโร โหตี’’ติ จ เอวมาทิํ วทนฺโต วินยํ ปฏิโลเมติ นาม, ตพฺพิปริยาเยน ตํ อนุโลเมนฺเตนฯ ปฏิโลเมนฺโต หิ กมฺมนฺตรํ ภินฺทนฺโต ธมฺมตญฺจ วิโลเมติฯ สุตฺตนฺเต วุตฺเต จตฺตาโร มหาปเทเส, อฏฺฐกถายญฺจ วุตฺเต สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมติมหาปเทเส โอโลเกนฺเตน

ตํโอโลกเนน หิ สุตฺเต วินเย จ สนฺติฏฺฐติ นาติธาวติฯ ธมฺมนฺติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปาฬิํฯ อตฺถนฺติ ตทตฺถํฯ เหตุเหตุผลานิ อิธ นาธิปฺเปตานิฯ ‘‘ทุกฺขาทีสุ อญฺญาณํ อวิชฺชา’’ติ วุตฺตมตฺถํ ปริวตฺติตฺวา ปุน ‘‘ปุพฺพนฺเต อญฺญาณ’’นฺติอาทีหิ อปเรหิปิ ปริยาเยหิ นิทฺทิสนฺเตนฯ ‘‘สงฺขารา อิมินา ปริยาเยน ภโวติ วุจฺจนฺติ, ตณฺหา อิมินา ปริยาเยน อุปาทาน’’นฺติอาทินา นิทฺทิสนฺเตนาติ วทนฺติฯ

สตฺโตติ สตฺตสุญฺญตาติ วทนฺติ, สตฺตสุญฺเญสุ วา สงฺขาเรสุ สตฺตโวหาโรฯ ปจฺจยาการเมว จาติ ปจฺจยากาโร เอว จ, -กาโร ปทสนฺธิกโรฯ

ตสฺมาติ วุตฺตนเยน อตฺถวณฺณนาย กาตพฺพตฺตา ทุกฺกรตฺตา จฯ

ปติฏฺฐํ นาธิคจฺฉามีติ ยตฺถ ฐิตสฺส วณฺณนา สุกรา โหติ, ตํ นยํ อตฺตโนเยว ญาณพเลน นาธิคจฺฉามีติ อตฺโถฯ นิสฺสยํ ปน อาจิกฺขนฺโต อาห ‘‘สาสนํ ปนิท’’นฺติอาทิฯ อิธ สาสนนฺติ ปาฬิธมฺมมาห, ปฏิจฺจสมุปฺปาทเมว วาฯ โส หิ อนุโลมปฏิโลมาทินานาเทสนานยมณฺฑิโต อพฺโพจฺฉินฺโน อชฺชาปิ ปวตฺตตีติ นิสฺสโย โหติฯ ตทฏฺฐกถาสงฺขาโต จ ปุพฺพาจริยมคฺโคติฯ

‘‘ตํ สุณาถ สมาหิตา’’ติ อาทรชนเน กิํ ปโยชนนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วุตฺตญฺเหต’’นฺติอาทิฯ อฏฺฐิํ กตฺวาติ อตฺถํ กตฺวา, ยถา วา น นสฺสติ, เอวํ อฏฺฐิคตํ วิย กโรนฺโต อฏฺฐิํ กตฺวาฯ ปุพฺพกาลโต อปรกาเล ภวํ ปุพฺพาปริยํฯ ปฐมารมฺภาทิโต ปภุติ ขเณ ขเณ ญาณวิเสสํ กิเลสกฺขยวิเสสญฺจ ลภตีติ อตฺโถฯ

กมฺมวิปากกิเลสวฏฺฏานํ มูลการณตฺตา อาทิโต วุตฺตตฺตา จ อวิชฺชา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส มูลํฯ ตตฺถ วลฺลิยา มูเล ทิฏฺเฐ ตโต ปภุติ วลฺลิยา หรณํ วิย ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส มูเล ทิฏฺเฐ ตโต ปภุติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาติ อุปมาสํสนฺทนา น กาตพฺพาฯ น หิ ภควโต ‘‘อิทเมว ทิฏฺฐํ, อิตรํ อทิฏฺฐ’’นฺติ วิภชนียํ อตฺถิ สพฺพสฺส ทิฏฺฐตฺตาฯ มูลโต ปภุติ ปน วลฺลิยา หรณํ วิย มูลโต ปภุติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนา กตาติ อิทเมตฺถ สามญฺญมธิปฺเปตํ, โพธเนยฺยชฺฌาสยวเสน วา โพเธตพฺพภาเวน มูลาทิทสฺสนสามญฺญญฺจ โยเชตพฺพํฯ

ตสฺสาติ

‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, กุมาโร วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต…เป.… รชนีเยหิ, โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป สารชฺชติ, อปิยรูเป รูเป พฺยาปชฺชติ, อนุปฏฺฐิตกายสตี จ วิหรติ ปริตฺตเจตโสฯ โส ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, โส เอวํ อนุโรธวิโรธํ สมาปนฺโน ยํ กิญฺจิ เวทนํ เวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, โส ตํ เวทนํ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺฐตี’’ติ (ม. นิ. 1.408) –

เอวํ วุตฺตสฺสฯ เอวํ โสตทฺวาราทีสุปิฯ อภิวทโตติ ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ วจีเภทกรปฺปตฺตาย พลวตณฺหาย ‘‘อหํ มมา’’ติ อภิวทโตฯ ตโต พลวติยา โมเจตุํ อสกฺกุเณยฺยภาเวน อชฺโฌสาย ติฏฺฐโตฯ ตโตปิ พลวตี อุปาทานภูตา ตณฺหา นนฺทีฯ เอตฺถ จ อภินนฺทนาทินา ตณฺหา วุตฺตา, นนฺทีวจเนน ตปฺปจฺจยํ อุปาทานํ จตุพฺพิธมฺปิ นนฺทิตาตทวิปฺปโยคตาหิ ตณฺหาทิฏฺฐาภินนฺทนภาเวหิ จาติ เวทิตพฺพํฯ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติอาทิกญฺจ ตตฺเถว มหาตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติสุตฺเต (ม. นิ. 1.402-403) วุตฺตํฯ

วิปากวฏฺฏภูเต ปฏิสนฺธิปวตฺติผสฺสาทโย กมฺมสมุฏฺฐานญฺจ โอชํ สนฺธาย ‘‘จตฺตาโร อาหารา ตณฺหานิทานา’’ติอาทิ วุตฺตํ, วฏฺฏูปตฺถมฺภกา ปน อิตเรปิ อาหารา ตณฺหาปภเว ตสฺมิํ อวิชฺชมาเน น วิชฺชนฺตีติ ‘‘ตณฺหานิทานา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏนฺติฯ

ตโต ตโตติ จตุพฺพิธาสุ เทสนาสุ ตโต ตโต เทสนาโตฯ ญายปฺปฏิเวธาย สํวตฺตตีติ ญาโยติ มคฺโค, โสเยว วา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ‘‘อริโย จสฺส ญาโย ปญฺญาย สุทิฏฺโฐ โหตี’’ติ (สํ. นิ. 2.41) วจนโตฯ สยเมว หิ สมนฺตภทฺรกตฺตา ตถา ตถา ปฏิวิชฺฌิตพฺพตฺตา ตาย ตาย เทสนาย อตฺตโน ปฏิเวธาย สํวตฺตตีติฯ

สมนฺตภทฺรกตฺตํ เทสนาวิลาสปฺปตฺติ จ จตุนฺนมฺปิ เทสนานํ สมานํ การณนฺติ วิเสสการณํ วตฺตุกาโม อาห ‘‘วิเสสโต’’ติฯ อสฺส ภควโต เทสนา, อสฺส วา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส เทสนาติ โยเชตพฺพํฯ ปวตฺติการณวิภาโค อวิชฺชาทิโกว, การณนฺติ วา คหิตานํ ปกติอาทีนํ อวิชฺชาทีนญฺจ อการณตา การณตา จฯ ตตฺถ สมฺมูฬฺหา เกจิ อการณํ ‘‘การณ’’นฺติ คณฺหนฺติ, เกจิ น กิญฺจิ การณํ พุชฺฌนฺตีติ เตสํ ยถาสเกหิ อนุรูเปหิ การเณหิ สงฺขาราทิปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อนุโลมเทสนา ปวตฺตา, อิตราสํ ตทตฺถตาสมฺภเวปิ น ตาสํ ตทตฺถเมว ปวตฺติ อตฺถนฺตรสพฺภาวโตฯ อยํ ปน ตทตฺถา เอวาติ เอติสฺสา ตทตฺถตา วุตฺตาฯ ปวตฺติอาทีนวปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา อาทิ, ตโต สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ ตโต วิญฺญาณนฺติ เอวํ ปวตฺติยา อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถญฺจ

อนุวิโลกยโต โย สมฺโพธิโต ปุพฺพภาเค ตํตํผลปฏิเวโธ ปวตฺโต, ตทนุสาเรน ตทนุคเมน ชรามรณาทิกสฺส ชาติอาทิการณํ ยํ อธิคตํ, ตสฺส สนฺทสฺสนตฺถํ อสฺส ปฏิโลมเทสนา ปวตฺตา, อนุวิโลกยโต ปฏิโลมเทสนา ปวตฺตาติ วา สมฺพนฺโธฯ เทเสนฺโตปิ หิ ภควา กิจฺฉาปนฺนํ โลกํ อนุวิโลเกตฺวา ปุพฺพภาค…เป.… สนฺทสฺสนตฺถํ เทเสตีติฯ อาหารตณฺหาทโย ปจฺจุปฺปนฺนทฺธา, สงฺขาราวิชฺชา อตีตทฺธาติ อิมินา อธิปฺปาเยนาห ‘‘ยาว อตีตํ อทฺธานํ อติหริตฺวา’’ติ, อาหารา วา ตณฺหาย ปภาเวตพฺพา อนาคโต อทฺธา, ตณฺหาทโย ปจฺจุปฺปนฺโน, สงฺขาราวิชฺชา อตีโตติฯ ปจฺจกฺขํ ปน ผลํ ทสฺเสตฺวา ตํนิทานทสฺสนวเสน ผลการณปรมฺปราย ทสฺสนํ ยุชฺชตีติ อาหารา ปุริมตณฺหาย อุปฺปาทิตา ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา, ตณฺหาทโย อตีโต, สงฺขาราวิชฺชา ตโตปิ อตีตตโร สํสารสฺส อนาทิภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺโตติ ยาว อตีตํ อทฺธานนฺติ ยาว อตีตตรํ อทฺธานนฺติ อตฺโถ ยุตฺโตฯ

อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติอาหารกา วา จตฺตาโร อาหารา –

‘‘อาหาเรตีติ อหํ น วทามิ, อาหาเรตีติ จาหํ วเทยฺยุํ, ตตฺรสฺส กลฺโล ปญฺโห ‘โก นุ โข, ภนฺเต, อาหาเรตี’ติฯ เอวํ จาหํ น วทามิ, เอวํ ปน อวทนฺตํ มํ โย เอวํ ปุจฺเฉยฺย ‘กิสฺส นุ โข, ภนฺเต, วิญฺญาณาหาโร’ติฯ

เอส กลฺโล ปญฺโห, ตตฺร กลฺลํ เวยฺยากรณํ, วิญฺญาณาหาโร อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา’’ติ (สํ. นิ. 2.12) –

วจนโต ตํสมฺปยุตฺตตฺตา ผสฺสเจตนานํ ตปฺปวตฺติเหตุตฺตา จ กพฬีการาหารสฺสฯ เตน หิ อุปตฺถมฺภิตรูปกายสฺส, ตญฺจ อิจฺฉนฺตสฺส กมฺมวิญฺญาณายูหนํ โหติฯ โภชนญฺหิ สทฺธาทีนํ ราคาทีนญฺจ อุปนิสฺสโยติ วุตฺตนฺติฯ ตสฺมา ‘‘เต กมฺมวฏฺฏสงฺคหิตา อาหารา ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา’’ติ อิมสฺมิํ ปริยาเย ปุริโมเยวตฺโถ ยุตฺโตฯ อตีตทฺธุโต ปภุติ ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา (สํ. นิ. 2.3) อตีเต ตโต ปรญฺจ เหตุผลปฏิปาฏิํ ปจฺจกฺขานํ อาหารานํ นิทานทสฺสนวเสน อาโรหิตฺวา นิวตฺตเนน วินา อพุชฺฌนฺตานํ ตํสนฺทสฺสนตฺถํ สา อยํ เทสนา ปวตฺตาติ อตฺโถฯ อนาคตทฺธุโน สนฺทสฺสนตฺถนฺติ อนาคตทฺธุโน ทุปฺปฏิวิชฺฌนฺตานํ อปสฺสนฺตานํ ปจฺจกฺขํ ปจฺจุปฺปนฺนํ เหตุํ ทสฺเสตฺวา เหตุผลปรมฺปราย ตสฺส สนฺทสฺสนตฺถนฺติ อตฺโถฯ

มูลการณสทฺทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘น อการณ’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส กโตฯ อการณํ ยทิ สิยา, สุตฺตํ ปฏิพาหิตํ สิยาติ ทสฺเสนฺโต สุตฺตํ อาหรติฯ วฏฺฏกถาย สีสภาโว วฏฺฏเหตุโน กมฺมสฺสปิ เหตุภาโวฯ ตตฺถ ภวตณฺหายปิ เหตุภูตา อวิชฺชา, ตาย ปฏิจฺฉาทิตาทีนเว ภเว ตณฺหุปฺปตฺติโตติ อวิชฺชา วิเสเสน สีสภูตาติ ‘‘มูลการณ’’นฺติ วุตฺตาฯ ปุริมาย โกฏิยา อปญฺญายมานาย อุปฺปาทวิรหโต นิจฺจตํ คณฺเหยฺยาติ อาห ‘‘เอวญฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจตี’’ติอาทิฯ เตน อิโต ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพตา นตฺถีติ อปญฺญายนโต ปุริมโกฏิอปญฺญายนํ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติฯ

อวิชฺชาตณฺหาเหตุกฺกเมน ผเลสุ วตฺตพฺเพสุ ‘‘สุคติทุคฺคติคามิโน’’ติ วจนํ สทฺทลกฺขณาวิโรธนตฺถํฯ ทฺวนฺเท หิ ปูชิตสฺส ปุพฺพนิปาโตติฯ สวรา กิร มํสสฺส อฏฺฐินา อลคฺคนตฺถํ ปุนปฺปุนํ ตาเปตฺวา โกฏฺเฏตฺวา อุณฺโหทกํ ปาเยตฺวา วิริตฺตํ สูนํ อฏฺฐิโต มุตฺตมํสํ คาวิํ มาเรนฺติฯ เตนาห ‘‘อคฺคิสนฺตาปิ’’จฺจาทิฯ ตตฺถ ยถา วชฺฌา คาวี จ อวิชฺชาภิภูตตาย ยถาวุตฺตํ อุณฺโหทกปานํ อารภติ, เอวํ ปุถุชฺชโน ยถาวุตฺตํ ทุคฺคติคามิกมฺมํฯ

ยถา ปน สา อุณฺโหทกปาเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตณฺหาวเสน สีตุทกปานํ อารภติ, เอวมยํ อวิชฺชาย มนฺทตฺตา ทุคฺคติคามิกมฺเม อาทีนวํ ทิสฺวา ตณฺหาวเสน สุคติคามิกมฺมํ อารภติฯ ทุกฺเข หิ อวิชฺชํ ตณฺหา อนุวตฺตติ, สุเข ตณฺหํ อวิชฺชาติฯ

เอวนฺติ อวิชฺชาย นิวุตตฺตา ตณฺหาย สํยุตฺตตฺตา จฯ อยํ กาโยติ สวิญฺญาณกกาโย ขนฺธปญฺจกํ, ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วจนโต ผสฺสการณญฺเจตํ วุจฺจตีติ อายตนฉกฺกํ วาฯ สมุทาคโตติ อุปฺปนฺโนฯ พหิทฺธา จ นามรูปนฺติ พหิทฺธา สวิญฺญาณกกาโย ขนฺธปญฺจกํ, สฬายตนานิ วาฯ อิตฺเถตนฺติ อิตฺถํ เอตํฯ อตฺตโน จ ปเรสญฺจ ปญฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ จ ทฺวารารมฺมณภาเวน ววตฺถิตานิ ทฺวยนามานีติ อตฺโถฯ ‘‘ทฺวยํ ปฏิจฺจ ผสฺโสติ อญฺญตฺถ จกฺขุรูปาทีนิ ทฺวยานิ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา, อิธ ปน อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิฯ มหาทฺวยํ นาม กิเรต’’นฺติ (สํ. นิ. อฏฺฐ. 2.2.19) วุตฺตํฯ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – อญฺญตฺถ ‘‘จกฺขุญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติอาทินา (สํ. นิ. 2.43) ‘‘จกฺขุ เจว รูปา จ…เป.… มโน เจว ธมฺมา จา’’ติ วุตฺตานิ ทฺวยานิ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา, อิธ ปน ‘‘อยญฺเจว กาโย’’ติ จกฺขาทินิสฺสเย เสสธมฺเม จกฺขาทินิสฺสิเต เอว กตฺวา วุตฺตํ, จกฺขาทิกายํ เอกตฺเตน ‘‘อชฺฌตฺติกายตน’’นฺติ คเหตฺวา ‘‘พหิทฺธา นามรูป’’นฺติ วุตฺตํ, รูปาทิอารมฺมณํ เอกตฺเตเนว พาหิรายตนนฺติ ตานิ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ ปฏิจฺจ ผสฺโส วุตฺโต, ตสฺมา มหาทฺวยํ นาเมตนฺติฯ เอวญฺจ กตฺวา ‘‘อตฺตโน จ ปรสฺส จ ปญฺจหิ ขนฺเธหิ ฉหายตเนหิ จาปิ อยมตฺโถ ทีเปตพฺโพวา’’ติ (สํ. นิ. อฏฺฐ. 2.2.19) วุตฺตํฯ ‘‘อยํ กาโย’’ติ หิ วุตฺตานิ สนิสฺสยานิ จกฺขาทีนิ อตฺตโน ปญฺจกฺขนฺธา, ‘‘พหิทฺธา นามรูป’’นฺติ วุตฺตานิ รูปาทีนิ ปเรสํฯ ตถา อยํ กาโย อตฺตโนว อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ, พหิทฺธา นามรูปํ ปเรสํ พาหิรานีติฯ อญฺญถา อชฺฌตฺติกายตนมตฺเต เอว ‘‘อยํ กาโย’’ติ วุตฺเต น อชฺฌตฺติกายตนาเนว อตฺตโน ปญฺจกฺขนฺธา โหนฺตีติ อตฺตโน จ ปเรสญฺจ ปญฺจกฺขนฺเธหิ ทีปนา น สมฺภเวยฺยาติฯ สเฬวายตนานีติ สเฬว สมฺผสฺสการณานิ, เยหิ การณภูเตหิ อายตเนหิ อุปฺปนฺเนน ผสฺเสน ผุฏฺโฐ พาโล สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทติฯ

อาทิ-สทฺเทน ‘‘เอเตสํ วา อญฺญตเรน อวิชฺชานีวรณสฺส, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ตณฺหาย สํยุตฺตสฺสา’’ติอาทิ โยเชตพฺพํฯ ตสฺมิญฺหิ สุตฺเต สงฺขาเร อวิชฺชาตณฺหานิสฺสิเต เอว กตฺวา กายคฺคหเณน วิญฺญาณนามรูปสฬายตนานิ คเหตฺวา เอตสฺมิญฺจ กาเย สฬายตนานํ ผสฺสํ ตํนิสฺสิตเมว กตฺวา เวทนาย วิเสสปจฺจยภาวํ ทสฺเสนฺเตน ภควตา พาลปณฺฑิตานํ อตีตทฺธาวิชฺชาตณฺหามูลโก เวทนานฺโต ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ทสฺสิโตฯ ปุน จ พาลปณฺฑิตานํ วิเสสํ ทสฺเสนฺเตน –

‘‘ยาย จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย นิวุตสฺส พาลสฺส ยาย จ ตณฺหาย สํยุตฺตสฺส อยํ กาโย สมุทาคโต, สา เจว อวิชฺชา พาลสฺส อปฺปหีนา, สา จ ตณฺหา อปริกฺขีณาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, พาโล อจริ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตสฺมา พาโล กายสฺส เภทา กายูปโค โหติ, โส กายูปโค สมาโน น ปริมุจฺจติ ชาติยา…เป.… ทุกฺขสฺมาติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. 2.19) –

เวทนาปภวํ สาวิชฺชํ ตณฺหํ ทสฺเสตฺวา อุปาทานภเว จ ตํนิสฺสิเต กตฺวา ‘‘กายูปโค โหตี’’ติอาทินา ชาติอาทิเก ทสฺเสนฺเตน ปจฺจุปฺปนฺนเหตุสมุฏฺฐานโต ปภุติ อุภยมูโลว ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วุตฺโต, ตพฺพิปริยาเยน จ ปณฺฑิตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนเหตุปริกฺขยโต ปภุติ อุภยมูลโก ปฏิโลมปฏิจฺจสมุปฺปาโทติฯ

ทุคฺคติคามิกมฺมสฺส วิเสสปจฺจยตฺตา อวิชฺชา ‘‘อวินฺทิยํ วินฺทตี’’ติ วุตฺตา, ตถา วิเสสปจฺจโย วินฺทิยสฺส น โหตีติ ‘‘วินฺทิยํ น วินฺทตี’ติ จฯ อตฺตนิ นิสฺสิตานํ จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ ปวตฺตนํ อุปฺปาทนํ อายตนํฯ สมฺโมหภาเวเนว อนภิสมยภูตตฺตา อวิทิตํ อญฺญาตํ กโรติอนฺตวิรหิเต ชวาเปตีติ จ วณฺณาคมวิปริยายวิการวินาสธาตุอตฺถวิเสสโยเคหิ ปญฺจวิธสฺส นิรุตฺติลกฺขณสฺส วเสน ตีสุปิ ปเทสุ อ-การ วิ-การ ช-กาเร คเหตฺวา อญฺเญสํ วณฺณานํ โลปํ กตฺวา ช-การสฺส จ ทุติยสฺส อาคมํ กตฺวา ‘‘อวิชฺชา’’ติ วุตฺตาฯ พฺยญฺชนตฺถํ ทสฺเสตฺวา สภาวตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาหฯ

จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานิ ‘‘อิทํ วตฺถุ, อิทมารมฺมณ’’นฺติ อวิชฺชาย ญาตุํ น สกฺกาติ อวิชฺชา ตปฺปฏิจฺฉาทิกา วุตฺตาฯ วตฺถารมฺมณสภาวจฺฉาทนโต เอว อวิชฺชาทีนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทภาวสฺส, ชรามรณาทีนํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนภาวสฺส จ ฉาทนโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนฉาทนํ เวทิตพฺพํฯ

สงฺขาร-สทฺทคฺคหเณน อาคตา สงฺขารา สงฺขาร-สทฺเทน อาคตสงฺขาราฯ ยทิปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราปิ สงฺขาร-สทฺเทน อาคตา, เต ปน อิมิสฺสา เทสนาย ปธานาติ วิสุํ วุตฺตาฯ ตสฺมา ‘‘ทุวิธา’’ติ เอตฺถ อภิสงฺขรณกสงฺขารํ สงฺขาร-สทฺเทนาคตํ สนฺธาย ตตฺถ วุตฺตมฺปิ วชฺเชตฺวา สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารา โยเชตพฺพาฯ ‘‘สงฺขาร-สทฺเทนาคตสงฺขารา’’ติ วา สมุทาโย วุตฺโต, ตเทกเทโส จ อิธ วณฺณิตพฺพภาเวน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ, ตสฺมา วณฺณิตพฺพสพฺพสงฺคหณวเสน ทุวิธตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ ปฐมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโรติอาทินา วิตกฺกวิจารอสฺสาสปสฺสาสสญฺญาเวทนาวจีสงฺขาราทโย วุตฺตา, น อวิชฺชาสงฺขาเรสุ วุตฺตา กายสญฺเจตนาทโยฯ

ปริตสฺสตีติ ปิปาสติฯ ภวตีติ อุปปตฺติภวํ สนฺธาย วุตฺตํ, ภาวยตีติ กมฺมภวํฯ จุติ ขนฺธานํ มรณนฺติ ‘‘มรนฺติ เอเตนา’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘ทุกฺขา เวทนา อุปฺปาททุกฺขา ฐิติทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. 1.465) วจนโต ทฺเวธา ขณติฯ อายาโสติ ปริสฺสโม วิสาโทฯ เกวล-สทฺโท อสมฺมิสฺสวาจโก โหติ ‘‘เกวลา สาลโย’’ติ, นิรวเสสวาจโก จ ‘‘เกวลา องฺคมคธา’’ติ, ตสฺมา ทฺเวธาปิ อตฺถํ วทติฯ ตตฺถ อสมฺมิสฺสสฺสาติ สุขรหิตสฺสฯ น หิ เอตฺถ กิญฺจิ อุปฺปาทวยรหิตํ อตฺถีติฯ

ตํสมฺปยุตฺเต, ปุคฺคลํ วา สมฺโมหยตีติ สมฺโมหนรสาฯ อารมฺมณสภาวสฺส ฉาทนํ หุตฺวา คยฺหตีติ ฉาทนปจฺจุปฏฺฐานาฯ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. 1.103) วจนโต อาสวปทฏฺฐานาฯ ปฏิสนฺธิชนนตฺถํ อายูหนฺติ พฺยาปารํ กโรนฺตีติ อายูหนรสา, ราสิกรณํ วา อายูหนํฯ นามรูปสฺส ปุเรจาริกภาเวน ปวตฺตตีติ ปุพฺพงฺคมรสํฯ ปุริมภเวน สทฺธิํ ฆฏนํ หุตฺวา คยฺหตีติ ปฏิสนฺธิปจฺจุปฏฺฐานํฯ วิญฺญาเณน สห สมฺปยุชฺชตีติ สมฺปโยครสํฯ อญฺญมญฺญํ สมฺปโยคาภาวโต รูปํ วิกิรตีติ วิกิรณรสํฯ เอวญฺจ กตฺวา ปิสิยมานา ตณฺฑุลาทโย วิกิรนฺติ จุณฺณี ภวนฺตีติฯ

นามสฺส กทาจิ กุสลาทิภาโว จ อตฺถีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘อพฺยากตปจฺจุปฏฺฐาน’’นฺติ อาหฯ ‘‘อเจตนา อพฺยากตา’’ติ เอตฺถ วิย อนารมฺมณตา วา อพฺยากตตา ทฏฺฐพฺพาฯ อายตนลกฺขณนฺติ ฆฏนลกฺขณํ, อายานํ ตนนลกฺขณํ วาฯ ทสฺสนาทีนํ การณภาโว ทสฺสนาทิรสตาฯ อกุสลวิปากุเปกฺขาย อนิฏฺฐภาวโต ทุกฺเขน อิตราย จ อิฏฺฐภาวโต สุเขน สงฺคหิตตฺตา ‘‘สุขทุกฺขปจฺจุปฏฺฐานา’’ติ อาหฯ ทุกฺขสมุทยตฺตา เหตุลกฺขณา ตณฺหาฯ ‘‘ตตฺรตตฺราภินนฺทินี’’ติ (ที. นิ. 2.400; ม. นิ. 1.133, 460; วิภ. 203) วจนโต อภินนฺทนรสาฯ จิตฺตสฺส, ปุคฺคลสฺส วา รูปาทีสุ อติตฺตภาโว หุตฺวา คยฺหตีติ อติตฺตภาวปจฺจุปฏฺฐานาฯ ตณฺหาทฬฺหตฺตํ หุตฺวา กามุปาทานํ, เสสานิ ทิฏฺฐิ หุตฺวา อุปฏฺฐหนฺตีติ ตณฺหาทฬฺหตฺตทิฏฺฐิปจฺจุปฏฺฐานาฯ กมฺมุปปตฺติภววเสน ภวสฺส ลกฺขณาทโย โยเชตพฺพาฯ

อาทิ-สทฺเทน อนุโพธาทิภาวคฺคหณํฯ ทุกฺขาทีสุ อญฺญาณํ อปฺปฏิปตฺติ, อสุภาทีสุ สุภาทิวิปลฺลาสา มิจฺฉาปฏิปตฺติฯ ทิฏฺฐิวิปฺปยุตฺตา วา อปฺปฏิปตฺติ, ทิฏฺฐิสมฺปยุตฺตา มิจฺฉาปฏิปตฺติฯ น อวิชฺชาย เอว ฉทฺวาริกตา ฉฬารมฺมณตา จ, อถ โข อญฺเญสุปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ อรูปธมฺมานนฺติ อาห ‘‘สพฺเพสุปี’’ติฯ โนภยโคจรนฺติ มนายตนมาหฯ น หิ อรูปธมฺมานํ เทสวเสน อาสนฺนตา ทูรตา จ อตฺถิ อสณฺฐานตฺตา, ตสฺมา มนายตนสฺส โคจโร น มนายตนํ สมฺปตฺโต อสมฺปตฺโต วาติ วุจฺจตีติฯ

โสกาทีนํ สพฺภาวา องฺคพหุตฺตปฺปสงฺเค ‘‘ทฺวาทเสวา’’ติ องฺคานํ ววตฺถานํ เวทิตพฺพํฯ น หิ โสกาทโย องฺคภาเวน วุตฺตา, ผเลน ปน การณํ อวิชฺชํ มูลงฺคํ ทสฺเสตุํ เต วุตฺตาติฯ ชรามรณพฺภาหตสฺส หิ พาลสฺส เต สมฺภวนฺตีติ โสกาทีนํ ชรามรณการณตา วุตฺตาฯ ‘‘สารีริกาย ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโฐ’’ติ (สํ. นิ. 4.252) จ สุตฺเต ชรามรณนิมิตฺตญฺจ ทุกฺขํ สงฺคหิตนฺติ ตํตํนิมิตฺตานํ สาธกภาเวน วุตฺตํฯ ยสฺมา ปน ชรามรเณเนว โสกาทีนํ เอกสงฺเขโป กโต, ตสฺมา เตสํ ชาติปจฺจยตา ยุชฺชติฯ ชรามรณปจฺจยภาเว หิ อวิชฺชาย เอกสงฺเขโป กาตพฺโพ สิยา, ชาติปจฺจยา ปน ชรามรณํ โสกาทโย จ สมฺภวนฺตีติฯ

ตตฺถ ชรามรณํ เอกนฺติกํ องฺคภาเวเนว คหิตํ, โสกาทโย ปน รูปภวาทีสุ อภาวโต อเนกนฺติกา เกวลํ ปากเฏน ผเลน อวิชฺชานิทสฺสนตฺถํ คหิตาฯ เตน อนาคเต ชาติยา สติ ตโต ปราย ปฏิสนฺธิยา เหตุเหตุภูตา อวิชฺชา ทสฺสิตาติ ภวจกฺกสฺส อวิจฺเฉโท ทสฺสิโต โหตีติฯ สุตฺตญฺจ โสกาทีนํ อวิชฺชา การณนฺติ เอตสฺเสวตฺถสฺส สาธกํ ทฏฺฐพฺพํ, น โสกาทีนํ พาลสฺส ชรามรณนิมิตฺตตามตฺตสฺสฯ ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ (สํ. นิ. 4.252) หิ วจเนน อวิชฺชา โสกาทีนํ การณนฺติ ทสฺสิตา, น จ ชรามรณนิมิตฺตเมว ทุกฺขํ ทุกฺขนฺติฯ

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

อวิชฺชาปทนิทฺเทสวณฺณนา

[226] ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา 92 สงฺขารา’’ติ หิ วุตฺตนฺติ เอเตน อวิชฺชาย วิเสสนภาเวน สงฺขารานญฺจ ปธานภาเวน วุตฺตตฺตา สงฺขารานํ นิทฺทิสิตพฺพภาวสฺส การณํ ทสฺเสติฯ ปิตา กถียติ ‘‘ทีโฆ สาโม, มิตฺโต รสฺโส, โอทาโต ทตฺโต’’ติฯ

รสิตพฺโพ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สภาโว รโส, อตฺตโน รโส สรโส, ยาถาโว สรโส ยาถาวสรโส, โส เอว ลกฺขิตพฺพตฺตา ลกฺขณนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณํฯ ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชา? ทุกฺเข อญฺญาณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. 2.2; ม. นิ. 1.103) สุตฺเต จตฺตาเรว วุตฺตานีติ ‘‘สุตฺตนฺติกปริยาเยนา’’ติ อาหฯ นิกฺเขปกณฺเฑ ปนาติอาทินา อิธ จตูสุ ฐาเนสุ กถิตาย เอว อวิชฺชาย นิกฺเขปกณฺเฑ อฏฺฐสุ ฐาเนสุ กิจฺจชาติโต ปญฺจวีสติยา ปเทหิ ลกฺขณโต จ กถิตตฺตา ตทตฺถสํวณฺณนาวเสน วิภาวนํ กโรติฯ อหาเปตฺวา วิภชิตพฺพวิภชนญฺหิ อภิธมฺมปริยาโย

ชายติ เอตฺถาติ ชาติ, อุปฺปตฺติฏฺฐานํฯ