ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
อภิธมฺมปิฏเก
วิภงฺค-มูลฏีกา
1. ขนฺธวิภงฺโค
1. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
จตุสจฺจทโสติ จตฺตาริ สจฺจานิ สมาหฏานิ จตุสจฺจํ, จตุสจฺจํ ปสฺสีติ จตุสจฺจทโสฯ สติปิ สาวกานํ ปจฺเจกพุทฺธานญฺจ จตุสจฺจทสฺสนภาเว อนญฺญปุพฺพกตฺตา ภควโต จตุสจฺจทสฺสนสฺส ตตฺถ จ สพฺพญฺญุตาย ทสพเลสุ จ วสีภาวสฺส ปตฺติโต ปรสนฺตาเนสุ จ ปสาริตภาเวน สุปากฏตฺตา ภควาว วิเสเสน ‘‘จตุสจฺจทโส’’ติ โถมนํ อรหตีติ ฯ นาถตีติ นาโถ, เวเนยฺยานํ หิตสุขํ อาสีสติ ปตฺเถติ, ปรสนฺตานคตํ วา กิเลสพฺยสนํ อุปตาเปติ, ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตสมฺปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตา’’ติอาทินา (อ. นิ. 8.7) วา ตํ ตํ หิตปฏิปตฺติํ ยาจตีติ อตฺโถฯ ปรเมน จิตฺติสฺสริเยน สมนฺนาคโต, สพฺพสตฺเต วา คุเณหิ อีสติ อภิภวตีติ ปรมิสฺสโร ภควา ‘‘นาโถ’’ติ วุจฺจติฯ ‘‘สทฺธมฺเม คารวํ กตฺวา กริสฺสามี’’ติ โสตพฺพภาเว การณํ วตฺวา ปุน สวเน นิโยเชนฺโต อาห ‘‘ตํ สุณาถ สมาหิตา’’ติฯ ‘‘โปราณฏฺฐกถานยํ วิคาหิตฺวา กริสฺสามี’’ติ วา เอเตน สกฺกจฺจสวเน จ การณํ วตฺวา ตตฺถ นิโยเชนฺโต อาห ‘‘สทฺธมฺเม คารวํ กตฺวา ตํ สุณาถา’’ติฯ