เมนู

9. ตติยสุตสุตฺตํ

[350] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สํเสทชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?…เป.… อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สํเสทชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตีติฯ นวมํฯ

10. จตุตฺถสุตสุตฺตํ

[351] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการีฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘โอปปาติกา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ ทสมํฯ

11-20. อณฺฑชทานูปการสุตฺตทสกํ

[352-361] เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการีฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘อณฺฑชา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส อนฺนํ เทติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ

อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ…เป.… อุปปชฺชตีติ…เป.… โส ปานํ เทติ…เป.… วตฺถํ เทติ…เป.… ยานํ เทติ…เป.… มาลํ เทติ…เป.… คนฺธํ เทติ…เป.… วิเลปนํ เทติ…เป.… เสยฺยํ เทติ…เป.… อาวสถํ เทติ…เป.… ปทีเปยฺยํ เทติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ วีสติมํฯ

21-50. ชลาพุชาทิทานูปการสุตฺตตฺติํสกํ

[362-391] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ชลาพุชานํ นาคานํ…เป.… สํเสทชานํ นาคานํ…เป.… โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการีฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘โอปปาติกา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส อนฺนํ เทติ…เป.… ปานํ เทติ…เป.… ปทีเปยฺยํ เทติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ

(อิมินา เปยฺยาเลน ทส ทส สุตฺตนฺตา กาตพฺพาฯ เอวํ จตูสุ โยนีสุ จตฺตาลีสํ เวยฺยากรณา โหนฺติฯ ปุริเมหิ ปน ทสหิ สุตฺตนฺเตหิ สห โหนฺติ ปณฺณาสสุตฺตนฺตาติฯ)

นาคสํยุตฺตํ สมตฺตํฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

สุทฺธิกํ ปณีตตรํ, จตุโร จ อุโปสถา;

ตสฺส สุตํ จตุโร จ, ทานูปการา จ ตาลีสํ;

ปณฺณาส ปิณฺฑโต สุตฺตา, นาคมฺหิ สุปฺปกาสิตาติฯ